Phones





ttb ส่องศก.ไทยพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส4/64

2021-08-16 16:57:17 598



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ttb analytics ลุ้นเศรษฐกิจพ้นจุดต่ำสุดของโควิดในไตรมาส 4 รุกฉีดวัคซีนพื้นที่แดงเข้ม 70% หนุน GDP ทั้งปี 64 ยังโตได้ 0.3%
 
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองเงื่อนไขสำคัญที่นำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ได้แก่ สถานการณ์การระบาดอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งสมมติฐานที่ใช้ คือยอดผู้ติดเชื้อรายวันจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในระดับ 25,000-30,000 คน ภายในปลายเดือนส.ค.นี้ ควบคู่ไปการกระจายวัคซีนสอดคล้องกับยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ซึ่งใช้ตัวบ่งชี้เป็น 70% ของประชากรกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
 
โดยหากประมาณการโดยใช้อัตราฉีดวัคซีน 3 แสนโดสต่อวัน (เป็นค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังจนถึงขณะนี้) จะสามารถครอบคลุมประชากรในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ 70% ในต้นเดือนก.ย. (จากขณะนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสอยู่ 8 ล้านคน คิดเป็น 54%ของประชากรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ภายใต้การบริหารจัดการวัคซีนที่เป็นไปตามแผนทำให้มีปริมาณวัคซีนรองรับเพียงพอและยอดผู้ติดเชื้อปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นได้ในเดือนต.ค.64 ทั้งนี้ หากรักษาอัตราการฉีดวัคซีนได้ในระดับนี้ต่อเนื่อง จะสามารถครอบคลุมประชากรในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลได้ 70% หรืออีกนัยคือประเทศเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ใด้ภายในเดือนธ.ค.64
 
สำหรับการปรับตัวของแต่ละองค์ประกอบ พบว่าการบริโภคภาคเอกชน จะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นแต่ยังเปราะบางอยู่มากเมื่อมีการปลด ล็อกมาตรการปิดกิจการในพื้นที่ควบคุมสีแดง การปิดแคมป์ก่อสร้าง การปิดคลัสเตอร์โรงงาน และเมื่อรวมกับเม็ดเงินจากมาตรการเยียวยาที่คาดว่าจะมีต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกจ้าง แรงงานในกิจการและอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ รวมทั้งเดินหน้าโครงการในแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ชะลอไปในช่วงสถานการณ์โควิดโดยมีการเบิกจ่ายเพียง 28% คาดว่าจะช่วยประคองการบริโภคไม่ให้ทรุดหนัก โดยมีแนวโน้มที่จะทรงตัวจากปีก่อนหน้า  
 
ส่วนการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้าง ที่ทำให้เกิดปัญหาการโยกย้ายแรงงานจากพื้นที่ก่อสร้าง และการชะลอโครงการของภาครัฐบางส่วนโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้การลงทุนภาคเอกชนในปีนี้ฟื้นตัวช้า  ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวนำร่องด้วยภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ คาดว่าเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้เริ่มกลับมา แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังมีจำนวนไม่มากนัก โดยปรับลดประมาณการนักท่องเที่ยวทั้งปี 64 อยู่ที่ 1 แสนคน
 
ทั้งนี้ จากปัจจัยเศรษฐกิจในแทบทุกด้านโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ยังไม่สามารถกลับสู่ระดับปกติ โดยเป็นเพียงการเริ่มฟื้นตัวจากฐานต่ำในปีก่อนหน้า มีเพียงภาคการส่งออกที่เติบโตได้ โดยคาดว่าทั้งปี 64 จะโตได้ 9.4% และมาตรการภาครัฐที่เป็นแรงพยุงเศรษฐกิจ แต่โดยรวมก็ไม่สามารถชดเชยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ลดลงมากได้
 
โดย ttb analytics คาดโมเมนตัมเศรษฐกิจในไตรมาส 3/64 นี้ จะยังหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และจะกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อยในไตรมาส 4/64 หลังประเมินการแพร่ระบาดจะสามารถกลับเข้าสู่ระดับควบคุมได้อีกครั้ง ซึ่งนำไปสู่การคลายล็อกดาวน์ในช่วงต้นเดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 64 ขยายตัว 0.3% ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 0.9% ทั้งนี้ หากแผนการฉีดวัคซีนคืบหน้าได้ดีต่อเนื่อง และไม่เกิดการระบาดรุนแรงระลอกใหม่ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะกลับมาขยายตัวได้ที่ 3.2% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากฐานต่ำ
 
อย่างไรก็ตาม หากยอดผู้ติดเชื้อยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน ทำให้ต้องขยายการล็อกดาวน์ไปจนถึงสิ้นไตรมาส 3/64 นี้ และเงื่อนไขการกระจายวัคซีน ที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ 70% ยืดออกไปเป็นไตรมาส 1/65 ประกอบกับการส่งออกของไทยอาจได้รับผลกระทบจากความต้องการในตลาดอาเซียนชะลอลง โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย จากการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยอาจทำให้การส่งออกของไทยเติบโตลดลงไปที่ 6.6% ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะฉุดให้เศรษฐกิจทั้งปี 64 หดตัว หรือกล่าวได้ว่าวิกฤตโควิดทำให้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกหลังวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 ที่ผ่านมา