Phones





BYD รุกธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร เดินหน้าจับมือ TSB

2021-09-08 10:27:35 446




นิวส์ คอนเน็คท์ - BYD เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 64 ให้บริการธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร เดินหน้าธุรกิจเดินรถโดยสารสาธารณะ เตรียมส่งมอบรถภายในปีนี้ 120 คัน ดันรายได้เติบโตตั้งแต่ไตรมาส 4/64

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 64 ยังคงเดินหน้าพัฒนาการให้บริการในธุรกิจหลักทรัพย์แบบครบวงจร ควบคู่ไปกับการขยายโอกาสทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตตามแผนการเข้าลงทุนในธุรกิจเดินรถโดยสารระบบไฟฟ้า หรือ E-Bus ร่วมกับทางบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ซึ่งได้เข้าตรวจสอบกิจการเสร็จเรียบร้อยแล้ว 

โดยกลุ่ม TSB มีแผนจัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 337 คัน ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยในขณะนี้ รับมอบรถมาแล้วจำนวน 12 คัน และมีแผนรับมอบครั้งต่อไปจำนวน 36 คัน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถรับมอบรถแล้วเสร็จภายในปี 64 จำนวน 120 คัน ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุเลาลง ก็จะเริ่มได้เห็นรายได้จากธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้า 

นอกจากนี้ TSB ยังมีแผนงานที่จะนำ E-Ticket มาใช้กับระบบการชำระเงินโดยมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเข้าร่วมสนับสนุน พร้อมกับระบบการดูแลความปลอดภัยและติดตามการเดินรถในทุกเส้นทาง เป็นต้น จากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้และการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวได้

ส่วนแผนการดำเนินงานด้านธุรกิจหลักทรัพย์ ว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยมีแผนที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ และพัฒนาบุคคลากรไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีการปรับกลยุทธ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Block trade และตราสารอนุพันธ์ โดยการจับมือกับพันธมิตร เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด พร้อมกับให้ความรู้ด้านการลงทุนตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับมือโปร ภายใต้โปรเจค “ BYD Online Academy ”

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/64 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 60.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205.42% เทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้รวม (57.70) ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานขาดทุน 76.83 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 81.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 51.50 % ซึ่งการขาดทุนดังกล่าว มีสาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 88.07 ล้านบาท