นิวส์ คอนเน็คท์ - TFM เทรดวันแรกพุ่งแตะ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 16.30% จากราคา IPO ที่ 13.50 บาท พร้อยลุยขยายธุรกิจต่างประเทศ หวังดันสัดส่วนรายได้แตะ 25% มั่นใจปี 65 รายได้เพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยราคาเปิดตลาดที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.20​ บาท​ หรือ​ 16.30% จากราคา IPO ที่ 13.50 บาท โดยระหว่างการซื้อขายภาคเช้าราคาได้ลดลงต่ำสุดที่ 15.50 บาท และปิดตลาดภาคเช้าที่ 15.20 บาท พร้อมด้วยมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่นกว่า​ 3.6 พันล้านบาท

นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ระดมทุนในตลาดฯ​ เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะขยายการลงทุนเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง​ ซึ่งได้แก่ ขยายการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต ซึ่งเงินทุนโดยส่วนใหญ่นั้นจะใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ยังใช้ในด้านของการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อหนี้สินต่อทุน (DE) ลดเหลือ 0.3 เท่า แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีการลงทุนใหม่ๆต่อเนื่อง พี้อมรักษาเพดานDE ไว้ไม่เกินระดับ 1 เท่า 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 64 คาดเติบโตได้ 15-20% จากปีก่อน ตามการฟื้นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ และ สัตว์เศรษฐกิจ ส่วนผลงานเฉพาะไตรมาส 4/64 มั่นใจว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ผลจากการเปิดประเทศ ตลอดจนธุรกิจที่เข้าลงทุนสามารถสร้างผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนปี 65 คาเรายได้จะทำได้ 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้​ ในระยะ 5 ปี บริษัทจะดันรายได้จากต่างประเทศให้ขึ้นสู่ระดับ 25% จากปัจจุบันอยู่ประมาณ 3% ด้วยโมเดลขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตไปยังประเทศที่มีศักยภาพโดยนำความพร้อมทางด้านประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี บุคลากร แหล่งเงินทุน และ กลยุทธ์ที่เหมาะสม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของ TFM เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผลการดำเนินงานของ บริษัทในระยะยาว

ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า TFM ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจที่ดี และถือเป็นผู้นำการผลิตอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพ และ มีแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับ ด้วยทีมผู้บริหาร และคณะกรรมการที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการบริหารงานส่งผลให้ TFM สามารถผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ

ทั้งนี้ยังได้รับประโยชน์จากการเป็นบริษัทในกลุ่มไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ทั้งด้านการจัดหาวัตถุดิบ ชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีการวิจัย และ พัฒนา (R&D) และการผนึกกำลัง (Synergy) ทำให้ TFM มีโอกาสในการเข้าลงทุนในบริษัทที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเติบโตตามการฟื้นตัวของประเทศ รวมถึงได้ขยายการเติบโตไปในประเทศที่มีศักยภาพ และสนับสนุนการเติบโตในอนาคต