Phones





บล.ไอร่า มองกรอบSETปี63ที่1,560–1,760จุด

2020-01-09 14:59:49 985




นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.ไอร่า ประเมินทิศทางการลงทุนปี 63 ภายใต้กรอบการลงทุน 1,560 – 1,760 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นกลุ่ม Global Play กลุ่ม Health Care กลุ่ม Domestic Play กลุ่มที่อยู่อาศัย และกลุ่มที่มีความน่าสนใจจากผลประกอบการ ที่ฟื้นตัวโดดเด่น


เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA มองเป้าหมาย SET Index ในปี 2563 ภายใต้การประเมิน EPS ปี 63 ที่ 97.70 บาท ซึ่งมองว่าเป็นการเติบโตแบบ Conservative ที่ 4.5% ตามเศรษฐกิจไทยในกรอบ 3.0% +/- จากประมาณการ EPS ปี 62 ที่ 93.50 บาท และคำนวณโดยใช้ PE Ratio ช่วง 15 – 17 เท่า ทำให้ประเมินเป้าหมาย SET Index ปีนี้ ในกรอบ 1,560 – 1,760 จุด


โดยมองว่าปัจจัยบวกหลักในปีนี้ จะมาจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คลี่คลายลงตามลำดับ คาดช่วยความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดย World Bank คาดการณ์ GDP โลกปี 63 ขยายตัว 2.7% ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 2.6% เมื่อปี 62 ขณะที่ แนวโน้มเศรษฐกิจไทย มีโอกาสฟื้นตัว โดยสภาพัฒน์ฯ ได้คาด GDP ในปีนี้ ในกรอบ 2.7 – 3.7% แม้ยังได้รับปัจจัยกดดันจากการส่งออกที่เปราะบาง และผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า แต่ยังคาดว่าได้รับการชดเชยจากการบริโภคในประเทศ ภายใต้มาตรการกระตุ้นที่คาดมีต่อเนื่อง และการลงทุนทั้งภาครัฐฯ และเอกชน คาดเร่งตัวขึ้นจากปี 62 รวมทั้งแผนการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้างระบบราง ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้า รวมถึงโครงการ Motorway
นอกจากนี้ การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลายๆ ประเทศ ทั้ง FED และ ECB รวมถึง BoT ที่ส่งสัญญาณคงอัตราอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าจากปัจจัยดังกล่าว จะหนุนภาพรวมการลงทุนปีนี้ในเชิงบวกมากขึ้น


ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงแนะกลยุทธ์การลงทุนในปี63 โดยแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่ม Global Play (พลังงาน โรงกลั่น และ ปิโตรเคมี) อาทิ PTTEP, PTTGC, TOP, SPRC และ IVL เนื่องจากเป็นหุ้นที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศ จากสถานการณ์สงครามทางการค้ากลับมามีสัญญาณเชิงบวกอีกครั้งและราคาน้ำมันที่มีโอกาสปรับขึ้นจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง, กลุ่ม Health Care Play (โรงพยาบาล) อาทิ BCH, CHG และ RJH ในฐานะ Defensive Stock จากรายได้ที่สม่ำเสมอ ประกอบกับประเด็นบวกจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม


กลุ่ม Domestic Play เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากโครงการขนาดใหญ่ที่คาดทยอยเปิดประมูลในปี63 มูลค่ารวม ประมาณ 750,000 ล้านบาท ยังเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะรายใหญ่ เช่น STEC, CK และ UNIQ รวมถึง SEAFCO จากการเข้าเป็น Subcontractor งานฐานราก (คาดสัดส่วน ประมาณ 3 – 5% ของมูลค่าโครงการ หรือ ~ 23,000 – 38,000 ล้านบาท), กลุ่มที่อยู่อาศัย จากราคาซื้อขายบน PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และแนวโน้มเงินปันผลที่จ่ายเป็นประจำ คาด Div.Yield สูงประมาณ 6 – 7% ที่น่าสนใจ เช่น SPALI และ AP เป็นต้น และสุดท้าย กลุ่มที่มีความน่าสนใจเฉพาะตัว จากผลประกอบการที่ฟื้นตัวโดดเด่น และมีโอกาสทำ New High ต่อเนื่อง เช่น CBG และ CPF เป็นต้น


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews