Phones





LEO งบ Q3/68 รายได้ 346 ล. เร่งสปีด Non-Freight / Non-Logistics

2025-11-12 10:59:39 79



นิวส์ คอนเน็คท์ - LEO เปิดงบไตรมาส 3/68 รายได้รวมแตะ 346 ล้านบาท ฟากซีอีโอ "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานโค้งสุดท้ายโตแกร่ง หลังภาษีนำเข้าสหรัฐชัดเจน เร่งสปีดธุรกิจ Non Freight และ Non-Logistics ต่อเนื่อง เดินหน้าลุยธุรกิจขนส่งทางราง ผลักดันอนาคตเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) บริษัทฯ มีรายได้รวม 346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7 ล้านบาท หรือ 3% จากไตรมาส 2 โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 2.3 ล้านบาท

ปัจจัยที่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มาจากสงครามการค้าและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงเดือนกรกฏาคมและสิงหาคม อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอัตราภาษีนำเข้าใหม่นับตั้งแต่เดือนกันยายนและเริ่มเห็นสัญญาณของการส่งออกของประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกภูมิภาค สอดคล้องกับตัวเลขภาคการส่งออกของประเทศไทย ที่มีการขยายตัว 19% ในเดือนกันยายน 2568 และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 48 เดือน

โดยบริษัทฯยังมีการเติบโตทางรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics อย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ การรับรู้รายได้จากการลงทุนและโครงการใหม่ทำให้รายได้เติบโตขึ้น และลดความผันผวนจากธุรกิจ Freight โดยเฉพาะรายได้จากการขนส่งทางรางที่บริษัทในกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้จากการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้น 134% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน โดยบริษัท LaneXang Express ซึ่งเป็นบริษัทร่วม สามารถทำรายได้ 9 เดือนแรกปี 2568 อยู่ที่ 31 ล้านบาท และบริษัท Sritrang LEO Multimodal Logistics มีรายได้จากการขนส่งทางรางภายในประเทศ 165 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนปี 2568 ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2567

นอกจากนี้ บริษัท YJC Depot Services ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์มีรายได้ในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 และเพิ่มขึ้น 73% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/2568 ไปจนถึงปี 2569 เนื่องจากมีลูกค้าใหม่เข้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของธุรกิจ LEO Coldbotic ซึ่งเป็นศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้าอัจฉริยะสำหรับไวน์ก็มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/2568 เนื่องจากมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นและเป็นช่วง High Season ของธุรกิจไวน์และร้านอาหารในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ และบริษัทก็จะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากการให้บริการให้เช่า Power Bank จากบริษัทร่วมฯ LEO JITU ที่กำลังจะเริ่มให้บริการในไตรมาสที่ 4/2568 นี้ด้วย

นายเกตติวิทย์ กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2568 มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคการค้าและการขนส่งระหว่างประเทศ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าธุรกิจจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และจะเป็นอีกหนึ่งช่วงสำคัญที่ท้าทายและพิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ของบริษัท

สำหรับทิศทางปี 2569 บริษัทฯ เตรียมต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในหลายประเทศ เพื่อขยายเส้นทางขนส่งไปยังตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในเอเชียและยุโรป ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจโลจิสติกส์ข้ามแดน (Cross-Border Logistics) และ การขนส่งสินค้าทางรางระหว่างไทย–จีน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการค้า การผลิต และอีคอมเมิร์ซ ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาค บริษัทฯ มองว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายการขนส่งทางรางจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งในระยะยาว พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ไปยังตลาดจีนตอนใต้และยุโรปผ่านเส้นทางรถไฟสายจีน–ลาว ควบคู่กับการต่อยอดธุรกิจในเครือของ LEO ซึ่งเริ่มสร้างผลตอบแทนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มธุรกิจ Logistics และ Non-Logistics รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่องกับ Green Logistics และ ESG Focused เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจโดยรวม และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว