Phones





BAY ประเมินกรอบเงินบาท31-31.40 บาทต่อดอลลาร์

2021-05-05 16:24:56 508




นิวส์ คอนเน็คท์ – BAY ส่องทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00-31.40 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือน เม.ย.64 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในประเทศระลอกสาม


เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00-31.40 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทปิดแข็งค่าที่ 31.15 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 31.15-31.49 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับระดับปิดสิ้นเดือนมี.ค. ท่ามกลางสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าโลกสะท้อนจากกิจกรรมด้านการผลิตและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น เงินดอลลาร์ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นตามข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ทิศทางการเติบโตอย่างสดใส


ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% ตามความคาดหมายของตลาด และระบุว่าจะหนุนเศรษฐกิจต่อไป โดยเฟดจะยังคงเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯอย่างน้อย 8 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (Mortgage-backed Securities) อย่างน้อย 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน แม้เฟดประเมินภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มของวิกฤตโรคระบาดในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 3,332 ล้านบาท และ 13,800 ล้านบาท ตามลำดับ


ขณะที่มองว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับตัวเลขภาคบริการและการจ้างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่ายังคงบ่งชี้การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามการกระจายวัคซีนที่รวดเร็วและการกลับมาเปิดเมือง อย่างไรก็ตามในการแถลงล่าสุดประธานเฟดมองว่าการจ้างงานยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายและเน้นย้ำว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ทางด้านรมว.คลังสหรัฐฯได้กล่าวช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่าอาจต้องปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นบ้างเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป ส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)ในวันที่ 6 พ.ค.อาจสร้างความผันผวนให้กับเงินปอนด์ได้เช่นกัน โดยตลาดจะติดตามสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของบีโออีในระยะถัดไป


สำหรับปัจจัยในประเทศคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ตามเดิม ในวันนี้ (5 พ.ค.) หลังธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเดือนมีนาคมขยายตัว 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเติบโต 5.7%


อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือนเม.ย.64 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในประเทศระลอกสามและยังต้องติดตามว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อเพียงใด ขณะที่การส่งออกสินค้าดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวมีลักษณะแตกต่างกัน (uneven recovery) มากขึ้น

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews