Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
BANPU ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ควบรวม BPP
MAI
88TH ชี้ Q4 เข้า High Season ย้ำ! พื้นฐานแกร่ง
IPO
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ‘TEBP’ ขาย IPO 90 ล้านหุ้น
บล./บลจ
กบข. ผนึกกำลังจุฬาฯ ปั้นนักลงทุนรุ่นใหม่
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
วิจัยกรุงศรี จับสัญญาณกนง.หั่นดอกเบี้ย หนุนศก.ฟื้น
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์ดันข้าวไทยในงาน Anuga 2025 พร้อมลุยตลาดยุโรป
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ฟร้อนท์ไลน์ฯ เดินหน้าสู่ผู้นำการจัดการน้ำครบวงจร
คมนาคม - โลจิสติกส์
SO คว้า 4 ดาว CGR ปี 68
แบงก์ - นอนแบงก์
EXIM BANK รับประกาศเกียรติคุณ STNSM
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
PUEAN ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด ลุยดันพอร์ตสินเชื่อแตะพันล้าน
SMEs - Startup
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
ประกันภัย - ประกันชีวิต
กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล เผย Q3/68 กำไรจากธุรกิจใหม่โต 13%
รถยนต์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้อุตฯรถยนต์ – ชิ้นส่วน ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า
ท่องเที่ยว
GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารไร้คนขับครั้งแรกในไทย เจาะตลาดการท่องเที่ยว
อสังหาริมทรัพย์
ศุภาลัย อัดแคมเปญ 'SUPALAI PICK SALE คว้าดีลเล่นใหญ่'
การตลาด
AEROFLEX ชวนสัมผัส “ความเย็นที่รู้สึกได้ ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง”
CSR
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
Information
คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท.
Gossip
เงินติดล้อ ลุยออกแคมเปญสินเชื่อช่วยลดภาระการเงิน
Entertainment
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดเยาวชนต่อยอดบอลที่สหรัฐฯ
สกุ๊ป พิเศษ
ATLAS หุ้นเด่น! LPG นวัตกรรมสุดล้ำ
ครม.อนุมัติ4.2หมื่นล.ลุยมาตรการเยียวยาปชช.
2021-07-13 17:07:27
6234
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – ที่ประชุม ครม.อนุมัติงบ 4.2 หมื่นล้านบาท เดินหน้ามาตรการเยียวยาปชช.ในพื้นที่ 10 จังหวัดที่มีการล็อกดาวน์ พร้อมลดค่าน้ำ-ไฟทั่วประเทศ 2 เดือน
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลาและสงขลา อย่างน้อย 14 วัน
สำหรับมาตรการจะประกอบด้วยการช่วยเหลือกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ประชาชนตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.-25 ก.ค. นี้ วงเงิน 30,000 ล้านบาท และมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและภาคธุรกิจทั่วประเทศ วงเงิน 12,000 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 42,000 ล้านบาท
โดยส่วนแรกในระยะเร่งด่วน จะให้ความช่วยเหลือกลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งจะขยายเพิ่มเติมอีก 5 สาขา ประกอบด้วย 1.สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 2.สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ 3.สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน 4.สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และ 5.สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร โดยระยะเวลาการช่วยเหลือเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนรูปแบบการช่วยเหลือนั้น หากเป็นกลุ่มแรงงานประกันสังคม ตามมาตรา 33 จะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมในอัตรา 2,500 บาทต่อเดือน จำนวน 1 เดือน
ทั้งนี้ เป็นการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการให้ความช่วยเหลือผ่านระบบประกันสังคมที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกจ้างและนายจ้าง ในกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย โดยลูกจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ตลอดเวลาที่มีคำสั่งปิดสถานที่แต่ไม่เกิน 90 วัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนประเภทดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐรวมไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคนจำนวน 1 เดือน
ในส่วนของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ มาตรา 40 สัญชาติไทย ที่ยังคงประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน จะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 จำนวน 1 เดือน สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ และไม่ได้เป็นผู้ประกันตน ที่ยังประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน ให้เตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนก.ค. นี้เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทจำนวน 1 เดือน
ขณะที่ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง ที่มีลูกจ้างแต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม กรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนนายจ้างในระบบประกันสังคม พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ภายในเดือนก.ค. นี้ เพื่อให้สามารถได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน 1 เดือน ทั้งนี้ ลูกจ้างดังกล่าวจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากระบบประกันสังคม เนื่องจากคุณสมบัติยังไม่ได้ครบตามเงื่อนไข ทำให้ไม่ได้รับการช่วยเหลือ
สำหรับกรณีที่เป็นผู้ประกอบการ ที่ไม่มีลูกจ้างแต่ยังอยู่ในระบบประกันสังคม ให้เตรียมหลักฐานสำหรับการลงทะเบียนการลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในระบบประกันสังคมกับสำนักงานประกันสังคม ภายในเดือนก.ค. นี้ เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน
ในส่วนของผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ในหมวดร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้าน OTOP ร้านค้าทั่วไป ร้านค่าบริการและกิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม (ม.40) ภายในเดือน ก.ค. 64 จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน กรณีที่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม (ม.33) ภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อผู้ประกอบการจะได้รับเงินตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คนในอัตรา 3,000 บาทต่อหัว/สถานประกอบการ และลูกจ้างสัญชาติไทยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและภาคธุรกิจทั่วประเทศนั้น ประกอบด้วย มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (ไฟฟ้า-น้ำประปา) ให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจทั่วประเทศ วงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าไฟฟ้า สำหรับบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ เป็นต้น
โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก 2.ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือนนั้น จะแบ่งเป็น กรณีที่หน่วยการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับใบแจ้งหนี้เดือนก.พ. ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ไฟฟ้าจริง และกรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย ต่อเดือน คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนก.พ. 64
ส่วนกรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 หน่วยต่อเดือนแต่ไม่เกิน 1,000 หน่วยต่อเดือน ให้คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของใบแจ้งค่าไฟเดือนก.พ.64 บวกด้วยหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่มากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนก.พ. ในอัตรา 50% สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 1,000 หน่วย ให้คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการไฟฟ้าของใบแจ้งเดือนก.พ.64 บวกด้วยหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่มากกว่าในอัตรา 70% โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
ด้านผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดเล็ก ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 100 หน่วยแรก และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดกลาง และกิจการขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง องค์กรไม่แสวงหากำไร และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร ให้ได้รับยกเว้นการเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด ไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. นี้ ขณะที่ค่าน้ำประปา ให้ลดค่าน้ำประปาลง 10% เฉพาะบ้านที่อยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นเวลา 2 เดือน สำหรับใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาประจำเดือนส.ค.-ก.ย. นี้
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หารือกับสถานศึกษาในสังกัดเพื่อกำหนดแนวทางการลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เช่น พิจารณาให้ส่วนลดเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา เป็นต้น ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นกรณีพิเศษ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง
BANPU ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ควบรวม BPP
PTG สุดปลื้ม! คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”
10 เรื่องน่ารู้ “ATLAS” หุ้นดีที่ต้องมีติดพอร์ต
WICE คว้าคะแนน CGR ระดับ “ดีเลิศ” 7 ปีซ้อน
COM7 โบรกฯ แนะ 'ซื้อ' เป้า 31.50 บ. - MC ปันผลงวดปี 68 หุ้นละ 0.96 บ.
BAM เดินหน้ากลยุทธ์ 3P ก้าวสู่ฮับธุรกิจ AMC - MGC-ASIA ปลื้ม! 'XPENG X9' ทะลุเป้า