Phones





KBANK แนะรัฐหารายได้เพิ่ม รองรับขยายเพดานหนี้สาธารณะ

2021-09-22 17:12:42 657



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - KBANK แนะภาครัฐเตรียมหาช่องทางจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ หลังเดินหน้าขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ขณะที่มองจีดีพีปีนี้ติดลบ 0.5% แต่รอทบทวนตัวเลขอีกครั้งในเดือนต.ค.หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์
 
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีการขยายวงเงินเพดานหนี้สาธารณะของไทยเป็น 70% มองว่าเป็นการใช้นโยบายทางการคลังเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ประเด็นสำคัญคือการกู้ยืมเงินของรัฐบาลจะสามารถช่วยให้การกระตุ้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ และในอนาคตจะมีจัดหารายได้เข้ารัฐได้มากขึ้นหรือไม่
 
สำหรับภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 64 ยังคงประมาณการไว้ที่ติดลบ 0.5% แต่อาจจะมีการทบทวนประมาณการอีกครั้งในเดือนต.ค. โดยยังต้องติดตามเรื่องของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่มีการคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งต้องติดตามว่ารัฐบาลจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมในเดือนต.ค.หรือไม่ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มลดลง รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
 
ขณะที่การส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์เดียวที่ขับเคลื่อนและประคองเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน โดยคาดว่าตัวเลขการส่งออกในปีนี้จะเติบโต 12.4% ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ในยุโรป และสหรัฐฯที่เริ่มทยอยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ รวมไปถึงการอ่อนค่าของเงินบาทที่ส่งผลบวกต่อการส่งออกของไทยในปีนี้ในสามารถเติบโตได้
 
อย่างไรก็ตาม ยังคงประเมินค่าเงินบาทในสิ้นปี 64 จะอยู่ที่ระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ค่าเงินบาทในปัจจุบันจะมีการอ่อนค่าไปถึงระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากถึง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 64 เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยมีการขาดดุล หลังจากภาคการท่องเที่ยวที่หายไป รวมไปถึงมีเงินไหลออกจากประเทศ และการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ทำให้ต่างชาติลดการถือครองตราสารหนี้ โดยพบว่าต่างชาติเริ่มมีการซื้อตราสารหนี้ลดลงจากเดิมที่ซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 8.7 หมื่นล้านบาทต่อเดือน