Phones





STECH ผลงาน Q1/68 กำไรโต 108.41%

2025-05-20 11:41:53 83



นิวส์ คอนเน็คท์ - STECH เผย Q1/68 บุ๊คกำไรโตกระโดด 108.41% อยู่ที่ 73.05 ล้านบาท กวาดรายได้ 660.17 ล้านบาท โต 28.46% จากการส่งมอบงานที่เร่งตัว และประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนที่โดดเด่น ชี้แนวโน้ม Q2 ยังสดใส เดินหน้าลุยประมูลงานใหม่ หนุน Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ใกล้ 1,000 ล้านบาท ส่วนแผนลงทุน “วังคอนกรีต” ส่งผลดีตามคาดการณ์ มีดีมานด์ที่ดีเข้ามาหนุน

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิดเผยว่า ภาพรวมบริษัทปีนี้ ผลงานเริ่มสะท้อนความสำเร็จจากการขยายตลาด และการปรับโครงสร้างการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุด ประกาศผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในงวดไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 73.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38 ล้านบาท หรือ 108.41% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 35.05 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายและบริการ 660.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146.27 ล้านบาท หรือ 28.46% รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในมือและการส่งมอบงานที่เร่งตัว

นอกจากนี้ บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประประสิทธิภาพ ส่งผลให้ STECH มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นถึง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่อัตรากำไรสุทธิก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11.01% จาก 6.40% อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ขยับขึ้นแตะ 18.92% จากเดิม 9.96% แม้ว่ารายได้จากโครงการรับเหมาก่อสร้างจะหมดลงจากการทยอยจบงานในปีที่แล้ว แต่ STECH ยังคงสามารถขยายรายได้จากการขายและบริการที่เป็น Core Business ได้อย่างแข็งแกร่ง บวกกับในช่วงกลางปี 2567 ที่ผ่านมา STECH ได้ขยายเข้าไปลงทุนใน บริษัท วังคอนกรีต จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต ประเภทเสาเข็ม และแผ่นพื้น เพื่อรองรับตลาดภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทฯ ยังไม่มีโรงงาน ทำให้เพิ่มช่องทางในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ อีกทั้งภาคใต้มีแผนเมกะโปรเจกต์หรือโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ทั้งโครงการกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาและอนุมัติโครงการ เป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการขยายฐานให้กว้าง และจะรับรู้ผลงานในปีนี้เข้ามาเต็มปี

นายเจษฎ์กรณ์ มงคลศรีสวัสดิ กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและขาย บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/68 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทยังมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่เกือบ 1,000 ล้านบาท และพร้อมเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่จำนวนมาก ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รองรับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดย STECH มีโรงงานผลิตคอนกรีตอัดแรงรวม 10 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค พร้อมจุดแข็งด้านเทคโนโลยีการผลิตลวดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้น้ำกรดไฮโดรคลอริค สอดรับเทรนด์ ESG และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด ไม่เพียงเท่านั้น STECH ยังต่อยอดธุรกิจไปสู่ตลาด B2C ด้วยการจำหน่าย เสาเข็มขนาดเล็ก (Micropile) เจาะกลุ่มเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย เพื่อซ่อมแซมต่อเติมบ้าน เพิ่มโอกาสสร้างรายได้กระแสใหม่ในอนาคต

“แม้เศรษฐกิจโลกยังเผชิญความท้าทาย แต่ตลาดคอนกรีตอัดแรงในไทยยังคงมีความต้องการอยู่จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ STECH มุ่งเน้นการขยายตลาดพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนสู่เป้าหมายรายได้ปี 2568 อย่างมั่นคง” นายเจษฎ์กรณ์ กล่าว