Phones





GUNKUL ชี้ผลดีขายหุ้น 9 โรงไฟฟ้า รับรู้รายได้เร็วขึ้น เอื้อเร่งลงทุนใหม่

2025-06-27 11:28:27 59



นิวส์ คอนเน็คท์ - GUNKUL กางผลดีขายหุ้นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลใน 2 บริษัทย่อยให้กับพันธมิตร ชี้! ปลดล็อคเพิ่มศักยภาพขยายการลงทุนพลังงานสีเขียว ทั้งไทยและทั่วเอเชีย รวมถึงลงทุนใน New S Curve และยังช่วยให้รับรู้รายได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 3/68 ไม่ต้องรอ COD ด้าน บล.บัวหลวง ประเมินครึ่งปีหลังน่าลุ้นชนะประมูลงาน EPC กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท หนุนกำไรชัดเจนในปี 69 ปรับราคาเป้าหมายหุ้น 4 บาท

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL แจ้งว่า ตามที่ GUNKUL ประกาศจำหน่ายหุ้นในบริษัทย่อย 2 แห่ง ในสัดส่วน 50% ให้กับบริษัทพันธมิตร ประโยชน์ที่บริษัทฯ จะได้รับมีหลายประการ เช่น 1. เป็นการปลดล็อคและเพิ่มศักยภาพในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว และใน New S-curve Growth ของบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งในโครงสร้างเงินทุน โดยอัตรา IBD/Equity ลดจาก 1.8x เหลือ 1.2x ในปี 2027 และ IBD/EBITDA ลดจาก 6x เหลือ 4.2x ในระยะยาวปี 2027

2. บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 9 โรงดังกล่าวได้เร็วขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้การพัฒนาโครงการและรายได้จากการก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม ที่จะรับรู้รายได้เมื่อโรงไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จและจ่ายไฟฟ้าแล้วในปลายปี 2569 

3. บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนโดยรวมจากโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 9 แห่งดังกล่าว ใกล้เคียงกับแผนเดิมที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้ง 100% จากการร่วมกันกับพันธมิตรในการบริหารโครงการ และ 4. บริษัทฯ สามารถเร่งการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวในประเทศไทยและทั่วเอเชียและใน New S-curve Growth ได้รวดเร็วขึ้นและมากขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนขึ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น

ด้าน บล.บัวหลวง คาดกำไรหลักไตรมาส 2/68 ของ GUNKUL จะอยู่ที่ 367 ล้านบาท ลดลง 21% YoY (รายได้ EPC ที่ลดลง, ค่า Ft ที่ต่ำ และผลผลิตไฟฟ้าลมที่ลดลง) และลดลง 6% QoQ ส่วนกำไรหลักไตรมาส 3/68 คาดว่าจะอยู่ที่ 363 ล้านบาท ลดลง 20% YoY เนื่องจากค่า Ft ที่ลดลง
และคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ EPC จะลดลง (ไตรมาส 3/67 อัตรากำไรขั้นต้นสูงผิดปกติ) หลังรวมประมาณการรายไตรมาสล่าสุดเข้าในประมาณการ จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2568 ลง 7% เหลือ 1.33 พันล้านบาท (ลดลง 22% YoY) และปรับราคาเป้าหมายจาก 4.70 บาท เหลือ 4.00 บาท

อย่างไรก็ดี แม้แนวโน้มระยะสั้น จะดูไม่น่าตื่นเต้น แต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อาจมีอัพไซด์จากโอกาสชนะประมูลงาน EPC มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะโครงการสายส่งไฟฟ้าใต้ทะเล 230kV (ขนอม-เกาะสมุย มูลค่า 7 พันล้านบาท) ที่จะประมูลในไตรมาส 3/68 และโครงการไฟฟ้าเพื่อชนบทบน 12 เกาะ (มูลค่า 4 พันล้านบาท) ในไตรมาส 4/68 หาก GUNKUL ชนะประมูลงานใดงานหนึ่ง จะช่วยหนุน backlog EPC (ซึ่งอยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2568) และเพิ่มความชัดเจนต่อกำไรปี 2569

และในปี 2569 GUNKUL จะเริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ใหม่ รวม 184MW (ได้ PPA จากรอบ 5GW ของ กกพ. รวม 177MW และอีก 7MW จาก PPA ตรงกับ Murata) เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าขึ้นอีก 25% และกำไรจากงาน EPC มีแนวโน้มฟื้นตัว หากชนะงานประมูลใหญ่ในครึ่งหลังของปี 2568 คาดกำไรหลักปี 2569 จะอยู่ที่ 1.68 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 26%)