Phones





NUT รุกทำการตลาด ปักหมุดรายได้โต 8%

2025-06-11 13:38:44 184



นิวส์ คอนเน็คท์ - NUT เปิดเทรดวันแรกที่ราคา 6.20 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 8.82% จากราคาไอพีโอที่ 6.80 บาท เปิดแผนหลังเข้าตลาด มุ่งเน้นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การผลิตคอนเทนต์ พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 6%

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT เปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกที่ราคา 6.20 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 8.82% จากราคาไอพีโอที่ 6.80 บาท โดยระหว่างเปิดทำการซื้อขายภาเช้ามีราคาสูงสุดที่ 6.55 บาท และราคาต่ำสุดที่ 5.95 บาท

นายภาคิณ กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT เปิดเผยว่า บริษัทตั้้งเป้ารายได้ปี 68 จะเติบโตอยู่ที่ 8% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมุ่งเน้นการทำการตลาดเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกันภายหลังจากการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำเงินระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การผลิตคอนเทนต์ (Content) รวมถึงการว่าจ้างพรีเซ็นเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเสริมอาหารและเครื่องสำอาง

รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement) กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care) ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์ผ่านคอนเท้นต์ รวมถึงการใช้ช่องทางที่มีคุณภาพและเข้าถึงลูกคำทั้งออฟไลน์และออนไลน์ครบรบวงจร ขณะเดียวกันบริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนและบริหการอัตรากำไรชั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดี

สำหรับสัดส่วนรายได้จากการขายโดยแบ่งตามช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทในปี 2567 แบ่งเป็น ช่องทางออฟไลน์ อาทิ โทรทัศน์, โทรศัพท์, ร้านขายยา ร้านค้าปลีก ฯลฯ อยู่ในระดับ 23.31% การรัลจ้างผลิต (OEM) 7.14% และ ช่องทางออนไลน์ อาทิ ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง (Digital marketing) และ ตลาดออนไลน์ (Markeplace) ที่ถือว่าเป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีสัดส่วนมากที่สุด 69.15%

"ในปี 2568 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ และ สร้างรายได้และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 1/2568 สัดส่วนช่องทางออนไลน์ของบริษัทเติบโตขึ้นที่ระดับ 75.54%" นายภาคิณ กล่าว