นิวส์ คอนเน็คท์ - SKY งบโค้งแรกมีแววโตสวย มั่นใจรายได้ทั้งปีพุ่งกว่า50% ตุนBacklogไว้เพียบ แถมรุกชิงดำงานใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจในมือเต็มอัตรา

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกายไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 จะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้งานในมือ (backlog) เข้ามาบางส่วน จากที่มีอยู่ทั้งสิ้นกว่า 4,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงประเมินว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตได้กว่า 50% ทั้งนี้บริษัท มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ทั้งด้าน smart security , telecommunication ,งานวิทยุ ,งาน Network รวมถึงโครงการที่เชื่อมโยงกับ5G ซึ่งมีมูลค่ารวมหลายพันล้านบาท ซึ่งมีงานทั้งในส่วนงานภาครัฐ และงานภาคเอกชนที่ปีนี้คาดว่าจะขยายและเพิ่มสัดส่วนรายได้มากขึ้น

อีกทั้งบริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดสมาร์ท ซีเคียวริตี้ (Smart Security) ไปยังกลุ่มใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงาน ฯลฯ หลังจากเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้เซ็นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับบริษัท SenseTime จากประเทศจีนซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของโลก และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยครอบคลุม 3 ด้าน คือ การรักษาความปลอดภัย การก่อสร้าง และการให้บริการ

ขณะที่ Digital Platform ที่ได้ดำเนินงานให้แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ผ่านระบบ AOT AIRPORTS Application ซึ่งบริษัทได้สิทธิในการประกอบกิจการเป็นระยะเวลา 10 ปี ขณะนี้ระบบเข้าสู่ช่วงการเก็บข้อมูลรวมถึงทำการตลาดเพื่อนำมาพัฒนาระบบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีโอกาสจะขยายระบบออกไปยังสนามบินต่างประเทศ ที่เป็นเครือข่ายของทาง AOT ในระยะต่อไป ทั้งนี้ Application ดังกล่าวนั้นได้มีผู้เข้าใช้งานแล้วประมาณ 400,000 ราย ซึ่งมั่นใจว่าระยะแรกจะมีผู้เข้ามาใช้บริการราว 1 ล้านราย และภายหลังจากนั้นจะมีผู้เข้ามาใช้ระบบอีกจำนวนมาก จึงทำให้มีนัยต่อผลการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากมีรายได้จากการใช้เซอร์วิสที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews