Phones





UOB แนะนำพอร์ตลงทุนที่แข็งแกร่งแก่ลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง

2024-05-08 18:34:12 63



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดงานสัมมนา Mid-Year Investment Outlook หวังให้นักลงทุนทราบถึงกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนที่แข็งแกร่งท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก เพื่อรับมือในช่วงครึ่งหลังของปี 67
 
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายเอ็นริโก้ ทานูวิดจายา นักเศรษฐศาสตร์ Global Economics and Market Research กลุ่มธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ UOB เปิดเผยว่า ปี 2567 ถือเป็นที่ท้าทายสำหรับนักลงทุนอย่างมาก จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ได้สร้างผลกระทบต่อการลงทุน ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยจึงแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาลงทุนในหุ้นปันผลเพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ
 
ทั้งนี้ แม้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจจะชี้ให้เห็นถึงกิจกรรมในประเทศที่ชะลอตัวลง แต่การฟื้นตัวของต่างประเทศยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ด้วยการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า ค่าใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นทางการคลัง ธนาคารยูโอบีคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีที่ 2.8% ในปี 2567 และ 3.0% ในปี 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวของการส่งออกภาคอุตสาหกรรม และอุปสงค์ในประเทศที่มีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
 
นายเอเบล ลิม Head of Wealth Management Advisory and Strategy กลุ่มธนาคารยูโอบี กล่าวว่า เนื่องจากตลาดมีความอ่อนไหวต่อดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอัตราการเติบโตและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่แตกต่างกัน การสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอผ่านการลงทุนในหุ้นปันผลจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยแนะนำการลงทุนหลัก เช่น กลยุทธ์ Multi-asset และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) ที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงช้า การกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์ ภูมิภาค และอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
 
ในส่วนของ Top Ideas นั้น แนะนำ Global Healthcare สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนในหุ้น เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีลักษณะ defensive และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งได้รับแรงหนุนจากสังคมผู้สูงอายุและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแม้จะมีความท้าทายในระยะสั้นในภูมิภาคเอเชีย(ไม่รวมญี่ปุ่น), อาเซียน และจีน แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง เนื่องจากการบริโภคในภูมิภาคที่ฟื้นตัวและมูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ
 
ด้านนายกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ความมุ่งมั่นของธนาคารยูโอบีในการผสานความเชี่ยวชาญของมนุษย์เข้ากับความล้ำหน้าของดิจิทัลเพื่อมอบบริการเฉพาะบุคคล โดยธนาคารมีเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยลูกค้าในการสร้างพอร์ตโฟลิโอการลงทุนส่วนบุคคลที่เรียกว่า My Wealth Planner
 
นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน เพื่อเป็นรากฐานสำหรับการลงทุนที่ยั่งยืนได้ดีขึ้น เครื่องมือ My Wealth Planner จะสร้างกรอบการลงทุนที่สามารถพาลูกค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนของตนได้ ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดจะถูกรวบรวมและประมวลผลโดย My Wealth Planner ซึ่งจะเข้าใจโปรไฟล์ความเสี่ยงในการลงทุนและจัดสรรกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนและการประกันภัย เครื่องมือนี้ยังทำให้การลงทุนเรื่องที่ปลอดภัยและง่ายขึ้น ทั้งยังคอยติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ
 
สำหรับฟีเจอร์ Wealth ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน UOB TMRW ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถจัดการความมั่งคั่งผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถลงทุนโดยตรงในกองทุนรวมที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงถึง 14 แห่ง อาทิ Blackrock, PIMCO, JPMorgan และ Fidelity
 
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้และกระจายพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลาย ผ่านเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายและผลิตภัณฑ์การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทีมที่ปรึกษาลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญของยูโอบี จะให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพโดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ทางการเงินสำหรับนักลงทุนรายบุคคล ผู้ลงทุนควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่า เข้าใจสิ่งที่กำลังลงทุนและได้คำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุน