Phones





EWS จับมือ BDC พัฒนาระบบน้ำ รองรับดาต้าเซ็นเตอร์

2025-10-17 09:17:59 129



นิวส์ คอนเน็คท์ - อีสท์วอเตอร์ สเตคอน ยูทิลิตี้ส์ (EWS) จับมือ บริดจ์ ดาต้า เซ็นเตอร์ (BDC) พัฒนาระบบน้ำ รองรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด Hyperscale ที่ชลบุรี

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 บริษัท อีสท์วอเตอร์ สเตคอน ยูทิลิตี้ส์ จำกัด หรือ EWS แจ้งว่า บริษัทฯ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ และ บริษัท สเตคอน พาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ประกาศลงนามสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมให้แก่ บริษัท บริดจ์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ไอไอไอ (ประเทศไทย) จำกัด (BDC) ผู้ประกอบการศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด Hyperscale ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

สำหรับสัญญาที่ลงนามในครั้งนี้ EWS จะเป็นผู้ผลิตและส่งมอบน้ำอุตสาหกรรม จากระบบผลิตน้ำอุตสาหกรรม (Centralized Plant) ของบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ BDC ขณะที่ อีสท์ วอเตอร์ จะเป็นผู้จัดหาน้ำดิบให้แก่ EWS โดยมีอายุสัญญา 10 ปี ปริมาณความต้องการใช้น้ำสูงสุด 3.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี (เฉลี่ย 9,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน) และกำหนดเริ่มรับน้ำในเดือนพฤษภาคม 2569 เป็นต้นไป

ด้าน BDC เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล (Hyperscale Data Center) สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีการลงทุนและขยายธุรกิจในหลายประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยในประเทศไทย BDC ได้เข้ามาลงทุนผ่านการซื้อกิจการดาต้าเซ็นเตอร์ BKK01 จาก WHA Bangkok Data Center ในปี 2565 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขนาดกำลังไฟฟ้า 450 กิโลวัตต์ ก่อนจะขยายการลงทุนด้วยการพัฒนา โครงการใหม่ในพื้นที่ตำบลคลองตำรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ (ราว 16 เฮกตาร์) ในระยะที่ 1 ของโครงการจะมีกำลังไฟฟ้ารองรับประมาณ 200 เมกะวัตต์ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของประเทศไทย โครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค

ความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ EWS และกลุ่มบริษัทอีสท์ วอเตอร์ ในฐานะผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำครบวงจร ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้น้ำในอุตสาหกรรมดิจิทัลซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ ที่ต้องการความมั่นคงและความต่อเนื่องของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนา เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Digital Hub แห่งเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำบทบาทของกลุ่มบริษัทอีสท์ วอเตอร์ในการสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรน้ำเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ

นายสัมพันธ์ ชนะบูรณาศักดิ์ กรรมการ STECON Power เปิดเผยว่า EWS เป็นการผสานความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของ STECON Power ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทของ STECON Group เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำของ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) Eastwater เพื่อร่วมกันตอบสนองความต้องการใหม่ของอุตสาหกรรม Data Center ซึ่งต้องการน้ำที่มีคุณภาพสูง มีความต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งน้ำที่มีคุณภาพผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Dater Center ดำเนินการได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง 

ความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง STECON Power และ Eastwater ประกอบกับ BDC ที่ให้ความไว้วางใจในบริษัท EWS ในการดำเนินการพัฒนาระบบน้ำโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด Hyperscale ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารจัดการน้ำ อันจะส่งผลให้ BDC ได้รับน้ำที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีความต่อเนื่อง ตรงตามมาตรฐานสากล ที่สำคัญยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกัน ในการสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรและยั่งยืน ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ ในการร่วมพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมด้าน Data Center ในอนาคต

นายบดินทร์ อุดล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อีสท์ วอเตอร์ เผยว่า สำหรับอีสท์ วอเตอร์ มีภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อความยั่งยืนของภาคตะวันออกและประเทศ ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาโครงข่ายระบบส่งน้ำดิบที่ครอบคลุมพื้นที่สำคัญของ EEC เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานภาครัฐ และชุมชน สามารถเข้าถึงน้ำอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ซึ่งการขยายสู่การผลิตน้ำอุตสาหกรรมสำหรับโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ในวันนี้ ถือเป็นการต่อยอดภารกิจดังกล่าวในมิติของ “สาธารณูปโภคเพื่ออุตสาหกรรมแห่งอนาคต”

โครงการนี้จะเป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่สร้างสรรค์ร่วมกัน เพื่อวางรากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย เพราะศูนย์ข้อมูลขนาด Hyperscale ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐานของภาคเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และการพัฒนา EEC ให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก