อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาและติดตามที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน อาทิ การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใหม่และการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ รวมถึงนโยบายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ส่งผลต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ อาทิ การส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อป, Private PPA , Third party access (TPA) และ Direct PPA สำหรับ Data center และไฟฟ้าสะอาดสำหรับธุรกิจอื่น ๆ ที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องกำหนดการของภาครัฐที่จะเปิดให้ใช้ไฟฟ้าสะอาดผ่าน Direct PPA รวมถึงขั้นตอนการสมัคร
ทั้งนี้ นัยต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า 3 ประการ ที่จะสอดรับไปกับการเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ 1. ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันโดยลดต้นทุนโครงการและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมนโยบายการปรับลดราคารับซื้อจากภาครัฐในอนาคต อาทิ การขยายความร่วมมือกับ Technology provider สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงาน, 2. พัฒนาโครงการหรือมีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ไฟฟ้าสำหรับ AI & Cloud Data center และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และ 3. ขยายโอกาสทางธุรกิจการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่สามารถรองรับ Third Party Assessment (TPA) และ Direct PPA ได้ในอนาคต โดยเตรียมความพร้อมเรื่องการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าใหม่เพื่อให้สามารถเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ทันทีหลังจากมีการอนุญาต TPA และ Direct PPA
ขณะที่บทบาทภาครัฐอย่างน้อย 3 ประการ ที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net zero) ในปี 2593 (2050) ได้แก่ 1. เร่งอนุญาต Third Party Assessment (TPA) และ Direct PPA สำหรับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาด แบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะแรก เช่น เริ่มจากผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นขอบเขตที่สามารถบริหารจัดการได้ เป็นต้น
2. จัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ให้สอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้าในประเทศและพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ตลอดจนเป้าหมาย Net zero 2593 (2050) ของประเทศโดยมีแนวทาง ดังนี้ ตรวจสอบความเหมาะสมของสมมุติฐานที่ใช้ในการจัดทำแผน PDP อย่างสม่ำเสมอ เช่น แนวโน้ม GDP ของประเทศ ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการผลิตไฟฟ้าใช้เองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น, กำหนดกรอบสัดส่วนประเภทของโรงไฟฟ้า โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและพัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศ, จัดทำแผนจากประมาณการ การผลิตไฟฟ้าโดยคำนึงถึงการเพิ่มสัดส่วนไฟฟ้าสะอาดในระยะยาวตามเป้าหมาย Net zero ในปี 2593 (2050)