Phones





CIMBT กำไรไตรมาส 3/68 โตกระฉูด 37%

2025-10-21 15:41:31 59



               
นิวส์ คอนเน็คท์ – CIMBT ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/68 กำไรพุ่ง 37% แตะระดับ 817 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 1,830 ล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 21 นายวุธว์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 5,248.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 19.4% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,830.4 ล้านบาท ลดลง 3.2% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น 59.5% โดยเป็นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังและเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 817.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 595.66 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 10,549.4 ล้านบาท ลดลง 2.2% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 15.1% จากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 0.5% จากการลดลงของค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย  ขณะที่รายได้อื่นๆเพิ่มขึ้น 34% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
 
ทั้งนี้ ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 5,248.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 19.4% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,830.4 ล้านบาท ลดลง 3.2% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น 59.5% โดยเป็นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังและเหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
 
ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) งวด 9 เดือนแรกปี 2568 อยู่ที่ 1.9% ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 2.3% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชีของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 2.42 แสนล้านบาท ล้านบาท ลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 ในส่วนของเงินฝากอยู่ที่ 3.18 แสนล้านบาท ลดลง 1.7% จากสิ้นปี 2567 ซึ่งมีจำนวน 3.24 แสนล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของกลุ่มธนาคารลดลงเป็น 76.0% จาก 77.6% ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567
 
ด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 2.6% คงที่จากช่วงสิ้นปี 2567 เป็นผลจากการที่กลุ่มธนาคารมีนโยบายการจัดการความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อที่รัดกุม มาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงแนวทางในการเรียกเก็บหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีอยู่ และการแก้ปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
 
อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568 อยู่ที่ 158.1% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 149.0% ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 9.8 พันล้านบาท  ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 ก.ย. 2568 มีจำนวน 61.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 21.1% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.6%