Phones





KTB อวดงบไตรมาส 3 กำไรโตสลุต 25%

2025-10-21 20:53:15 100



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – KTB ประกาศผลงานไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 14,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% รับแรงหนุนจากธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน และธุรกิจ Wealth Management พร้อมบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมุ่งเน้นดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวัง และรักษาระดับ Coverage Ratio ในระดับสูง รองรับภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
 
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 14,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% จากรายได้จากการดำเนินงานขยายตัว 3.4% ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน จากตราสารหนี้และอัตราแลกเปลี่ยนตามสภาวะตลาดอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่ขยายตัว 3.7% จากธุรกิจ Wealth Management
 
ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตามภาวะดอกเบี้ยและการปรับดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้า สินเชื่อโดยรวมลดลง 3.9% จากสิ้นปี 2567 ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง การชำระคืนของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อภาครัฐ ในด้านสินเชื่อรายย่อยเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย และธนาคารสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มี Cost to Income Ratio ที่ 37.7% ลดลงจาก 41.8% โดยคาดว่าประมาณการทั้งปียังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิม
 
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี NPL Ratio อยู่ที่ 2.88% ลดลงจาก 2.99% เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกหนี้รายใหญ่บางรายกลับมาเป็นหนี้ปกติ และยังคงรักษา Coverage Ratio ในระดับสูงต่อเนื่องที่ 206.6% เพิ่มขึ้นจาก 188.6% รองรับความไม่แน่นอนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะนี้ โดยมีอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อ (Credit Cost) ที่ 1.09% ลดลงจาก 1.29%
 
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2568 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 37,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% รายได้จากการดำเนินงานขยายตัวเล็กน้อย 0.4% ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 4% จากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารทรัพย์สินรอการขายที่กลับสู่ระดับปกติ แม้ธนาคารยังคงลงทุนในเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม รองรับการเติบโตในอนาคต โดย Cost to Income Ratio ลดลงเป็น 40.1% จาก 41.9%
 
ขณะที่ธนาคารยังคงตั้งสำรองอย่างรอบคอบและระมัดระวังและยังคงรักษา Coverage Ratio ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจสะท้อนคุณภาพสินทรัพย์ โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568 ธนาคาร (งบเฉพาะธนาคาร) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 19.78% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง และมีเงินกองทุนทั้งสิ้น 21.78% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
 
ทั้งนี้ ธนาคารขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างคุณค่าและโอกาสทางการเงินให้ทุกคนผ่าน 5 ยุทธศาสตร์หลัก ที่มุ่งเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน บริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ เสริมศักยภาพพนักงาน และสร้างสมดุลให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยล่าสุดธนาคารและพันธมิตรได้จัดตั้งธนาคารคลิกซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ขยายการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
 
นอกจากนี้ ธนาคารยังดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ รับมือกับความไม่แน่นอน โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มเปราะบางที่มีภาระหนี้สูงและรายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยร่วมสนับสนุนการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการต่างๆ อาทิ โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และ “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารยังเดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อสำหรับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับพลวัตของโลก ตลอดจนสนับสนุนกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูง (New S-Curve) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจ