Phones





SCBX ประกาศกำไร Q3/68 ทะลุ 1.2 หมื่นลบ.

2025-10-21 20:13:43 82



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – SCBX รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิจำนวน 12,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% รับแรงบวกจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกในการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เน้นการควบคุมต้นทุนด้วยการใช้ AI
 
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงวดไตรมาส 3/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 12,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 37,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/2568 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 29,413 ล้านบาท ลดลง 9.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งเป็นไปตามปริมาณสินเชื่อโดยรวมที่ลดลง 3.3% ภายใต้การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 10,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากปีก่อน จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตอย่างโดดเด่นจากการขายผลิตภัณฑ์การลงทุนมูลค่าสูง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
 
ในส่วนของรายได้จากการลงทุนและการค้ามีจำนวน 3,326 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากกำไรจากพอร์ตการลงทุนของธนาคาร และของบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จำนวน 17,575 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 0.2% จากปีก่อน จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 40.2%
 
ขณะที่บริษัทตั้งสำรองลดลง 1.3% จากปีก่อน เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยเฉพาะการปรับตัวดีขึ้นของบริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัด ทั้งนี้จำนวนสำรองดังกล่าวได้รวมสำรองพิเศษอีกจำนวน 1,400 ล้านบาท เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) คงอยู่ในระดับสูงที่ 161.7% อย่างไรก็ตาม แม้เผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอก บริษัทยังสามารถควบคุมคุณภาพของสินเชื่อโดยรวมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 อยู่ที่ 3.30% ลดลงจาก 3.38% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.9%
 
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความก้าวหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพของบุคลากรในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิต พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดโอกาสการลงทุนแบบไร้พรมแดน เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริง มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจนี้ภายในปี 2569 ขณะที่การช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาลงทะเบียนเมื่อสิ้นไตรมาสที่ผ่านมา มีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการและได้รับความช่วยเหลือแล้วเป็นยอดหนี้รวมมากกว่า 60,000 ล้านบาท
 
อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับความท้าทายหลากหลายด้าน SCBX ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุกในการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนเชิงกลยุทธ์ผ่านการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานอย่างลึกซึ้ง ด้วยพลังของ AI และนวัตกรรม โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบกระบวนการใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงการลดค่าใช้จ่ายเฉพาะจุดหรือการปิดสาขา แต่เป็นการปรับวิธีการดำเนินงานทั้งระบบ เพื่อให้ต้นทุนการให้บริการลดลงอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
 
นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำเนินนโยบายบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินในระยะยาว และพร้อมมีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจให้สามารถฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ทันสมัยและการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล