Phones





แบงก์พาณิชย์ พาเหรดหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25%

2025-12-21 15:36:55 102



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – กลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยพร้อมใจประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทลง 0.25% หวังช่วยลดภาระแก่ลูกค้าและผู้ประกอบการ รวมถึงเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่อง พร้อมกับขานทิศทางดอกเบี้ยของ กนง. ขณะที่ BBL KTB และ SCB ปรับลดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.05 – 0.10%  
 
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2568 นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เป็น 6.45% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เป็น 6.60% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เป็น 6.60% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2568
 
สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ต้องการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภายใต้เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวและมีความเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงสนับสนุนประสิทธิผลของมาตรการทางการเงินและนโยบายของภาครัฐ นอกจากนี้ ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.05 - 0.10% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2568
 

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความเปราะบางและความเสี่ยงเพิ่มขึ้น จากความท้าทายรอบด้าน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือน และสภาพคล่องของภาคธุรกิจ ธนาคารจึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง ผู้ประกอบธุรกิจอิสระ และผู้ประกอบการ SME สนับสนุนการประคองธุรกิจ การจ้างงาน และการดำรงชีวิตของประชาชนให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ทั้งยังสอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. และช่วยเสริมประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
 
สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับลดลง 0.25% จาก 6.62% เหลือ 6.37% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ย MLR ปรับลดลง 0.10% จาก 6.50% เหลือ 6.40% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย MRR ปรับลดลง 0.10% จาก 7.045% เหลือ 6.945% ต่อปี รวมทั้งได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยฝาก 0.05 - 0.10% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป
 

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันลูกหนี้กลุ่มเปราะบางยังมีหนี้สูง ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ทั้งผลกระทบของมาตรการค้าของสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และแรงกดดันต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะช่วยบรรเทาภาระการชำระหนี้และเสริมสภาพคล่อง รวมถึงช่วยเสริมประสิทธิผลมาตรการทางการเงินของภาครัฐ ที่มุ่งลดความเปราะบางของภาคครัวเรือนและช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสม
 
ทั้งนี้ ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MLR จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.500% เป็น 6.400% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ย MOR จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.675% เป็น 6.425% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย MRR จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.775% เป็น 6.675% ต่อปี ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารได้ปรับลดลง 0.05 - 0.10% ต่อปี โดยธนาคารไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลธรรมดาลง เพื่อช่วยเหลือผู้ฝากเงินในภาวะดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป
 

ขณะที่นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัวชัดเจนและมีความเสี่ยงมากขึ้น จากความท้าทายรอบด้าน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือน และสภาพคล่องของภาคธุรกิจ ทีทีบีจึงพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MLR MOR และ MRR มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับลูกค้าบุคคลและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และครัวเรือนกลุ่มรายได้ต่ำที่ยังมีความเปราะบาง ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยประคองธุรกิจ การจ้างงาน และการดำรงชีวิตของประชาชนให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
 
นอกจากความช่วยเหลือด้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารช่วยเหลือลูกหนี้สนับสนุนลูกค้าสินเชื่อเพิ่มเติมผ่านโปรแกรม “ทีทีบี ผ่อนดี.. มีรางวัล” ที่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีประวัติผ่อนดี ซึ่งถือเป็นลูกค้าอีกกลุ่มที่สำคัญและยังไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือ โดยโปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทั้งคนผ่อนดีที่มีบ้าน และมีรถ ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยลงในครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรมนี้เพิ่มขึ้น
 

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าว่า ธนาคารพร้อมดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตและส่งเสริมความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
 
ทั้งนี้ ธนาคารปรับอัตราดอกเบี้ย MLR ลดลง 0.10% จาก 6.750% เป็น 6.650%, อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับลดลง 0.25% จาก 6.725% เป็น 6.475% และอัตราดอกเบี้ย MRR ปรับลดลง 0.10% จาก 6.870% เป็น 6.770% โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป