Phones





NER ปิดดีลลูกค้าอินเดียรายใหม่ โบรกฯ เคาะเป้าซื้อ 6.30 บ.

2025-05-20 10:14:24 77



นิวส์ คอนเน็คท์ - โบรกฯ ส่องแนวโน้ม NER คาดกำไรไตรมาส 2/68 ยังยืนเหนือ 500 ล้านบาท ระบุผลกระทบจากสหรัฐขึ้นภาษีมีจำกัด แจกข่าวดี! ปิดดีลลูกค้าอินเดียรายใหม่ 1 ราย แถมลุ้นบรรลุข้อตกลงอีกราย ก.ค.นี้ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เผยแพร่บทวิเคราะห์บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER โดนคาดแนวโน้ม Q2/25 เบื้องต้นคาดปริมาณขายลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 1.2 แสนตัน ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยคาดปรับสูงขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับ GPM ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน คาดเบื้องต้นที่ราว 10.0% จาก 10.6% ใน Q1/25 จากต้นทุนที่ขยับขึ้นจากราคาใน Q1/25 ขณะที่ราคาที่ลดลงใน Q2/25 มีวัตถุดิบให้ซื้อไม่มาก ทำให้ถัวเฉลี่ยราคาลงไม่ได้มาก คาดกำไรสุทธิที่ 500 ล้านบาท ลดลง 10–15% จกไตรมาสก่อน แต่ยังเติบได้เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ผลของการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯต่อไทยและจีน ทำให้ลูกค้ากลุ่ม Trader ซื่งบริษัทฯ มียอดขายผ่านกลุ่มนี้ราว 60–70% ชะลอการซื้อ แม้ว่าแท้จริงแล้ว ลูกค้าจีนโดยตรงจะได้รับผลกระทบจำกัด เพราะยางล้อที่ผลิตในจีนมีการส่งออกไปสหรัฐฯเพียง 4% แต่ลูกค้ากลุ่ม Trader มักมีความอ่อนไหวต่อประเด็นเศรษฐกิจมหภาค แต่หลังจากที่สหรัฐฯ และจีนเข้าสู่การเจรจาและมีการลดภาษีระหว่างกันลงชั่วคราว ทำให้ลูกค้าเริ่มกลับมาทำการซื้อมากขึ้น แต่ยังอยู่ที่ระดับประมาณ 75% ของระดับปกติก่อนประกาศภาษีวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งผลกระทบนี้จะกระทบเต็มที่ใน Q4/25 แต่ถือว่าน้อยกว่าที่คาดไว้เดิมว่าอาจจะเริ่มกระทบชัดเจนใน Q3/25 เนื่องจากยอดขายใน Q3/25 มากกว่า 70% มีการปิดการขายไปแล้วก่อน 2 เม.ย. 68 แล้ว

อย่างไรก็ดี NER ได้ลูกค้ายางล้ออินเดียรายใหม่ 1 ราย ปัจจุบันผ่านการทดสอบของลูกค้าแล้ว คาดว่าจะเริ่มทำการซื้อขายได้ใน Q4/25 และจะไปหนุนรายได้ Q1/26 เป็นต้นไป และคาดว่าจะได้เพิ่มเติมอีกราย ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่กว่ารายแรก คาดว่าจะทดสอบเสร็จภายในเดือน ก.ค. 68 สำหรับแผนการขยายกำลังการผลิต บริษัทขอเลื่อนการพิจารณาออกไปอีก 6 เดือน หากสถานการณ์คลี่คลายได้ภายใน 90 วัน จะกลับมาเริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ใน Q1/26 แต่การเลื่อนนี้ไม่กระทบประมาณการ เพราะยังไม่รวมในประมาณการเอาไว้

หากสถานการณ์ภาษีของสหรัฐฯ จบได้ใน 90 วัน คาดว่าจะหนุนให้ Q4/25 ได้รับผลกระทบจำกัด แต่จะเป็นบวกต่อ Q1/26 เนื่องจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาในช่วงปลาย Q3/25 ถึงช่วง Q4/25 จะเร่งตัวขึ้นจากการเติมสต๊อก และส่งมอบใน Q1/26 หนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้น

ด้วยกำไร Q1/25 ที่ดีกว่าคาด และคาด Q2/25-3Q/25 ยังถูกกระทบจำกัด และที่ประมาณการปัจจุบันเทียบเท่าคาดการณ์กำไร Q4/25 อยู่ที่ระดับ 300 ล้านบาท ถือว่ามี Downside risk จำกัด ส่วนสถานการณ์ด้านภาษีของสหรัฐฯ ฝ่ายวิจัยฯ ให้น้ำหนักไปในทางเจรจาได้มากกว่ากลับไปปรับขึ้นภาษีรุนแรง จึงยังคงประมาณการกำไร คงราคาเป้าหมาย และคงคำแนะนำ "ซื้อ" ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2025 ต่ำเพียง 4.7 เท่า ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 6.30 บาท