Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
เศรษฐกิจไทย ยุคทองจริงหรือ?
MAI
HPT เดินเกมรุกตลาด B2C หนุนยอดขายปีนี้โต 20%
IPO
HANN ไอพีโอ 160 ล้านหุ้น เคาะราคาหุ้นละ 0.70 บาท
บล./บลจ
GBS จับตาผลเจรจาภาษี ชี้เป้าหุ้นเก็งกำไรระยะสั้น
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC ประเมินศก.กลุ่ม CLMV หดตัวเหลือ 5.1%
การค้า - พาณิชย์
คต. เปิดฉากเวทีสัมมนา ‘World Tapioca Conference 2025’
พลังงาน - อุตสาหกรรม
PTG เปิดต้นแบบสถานีชาร์จ EV ครบวงจร
คมนาคม - โลจิสติกส์
พร้อมสปีด คอมเมิร์ซ จับมือ LEX ให้บริการบนสาขาเจ้าแรก
แบงก์ - นอนแบงก์
KBANK จับมือพันธมิตร ให้บริการชำระเงิน Google Play ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
กรุงศรี ออโต้ ชวนสัมผัสงาน “Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride 2025”
SMEs - Startup
KBTG เปิดกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Agentic AI
ประกันภัย - ประกันชีวิต
ครึ่งปี 68 ประกันชีวิตกวาดเบี้ย 3.26 แสนล. โต 4.87%
รถยนต์
เมอร์เซเดส-เบนซ์ สานต่อแคมเปญ “Welcome Back Stars” ปีที่ 2
ท่องเที่ยว
Coral ผนึกพันธมิตร เปิดตัว 4 แคมเปญหนุนเที่ยวไทยครึ่งปีหลัง
อสังหาริมทรัพย์
BAM เปิดตัวโครงการ ‘SMART GARDEN HOME’
การตลาด
KOAN เปิดตัว “Nothing Phone (3)” - “Headphone (1)”
CSR
KBTG เปิดกลยุทธ์ AI 5+1 ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Agentic AI
Information
SCB WEALTH จัดสัมมนา The Future of Wealth เจาะลึก Private Asset & Hedge Fund
Gossip
ATLAS ตัวจริง LPG ชูนวัตกรรม เปลี่ยนเกมพลังงานยุคใหม่!
Entertainment
TOA ร่วมปลุกพลังนักสร้างสรรค์แห่งอนาคต
สกุ๊ป พิเศษ
"รุ่ง-วิทัย" ใครจะเข้าวิน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
SCB EIC ประเมินศก.กลุ่ม CLMV หดตัวเหลือ 5.1%
2025-07-31 19:17:23
159
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC ระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV จะชะลอลงเหลือ 5.1% ในปี 2568 จาก 6.3% ในปี 2567 เนื่องจากอัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นภายใต้นโยบาย Trump 2.0 ซึ่งส่งผลกระทบต่อโมเดลการเติบโตของเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก โดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชาที่พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ การไหลเข้าของสินค้าราคาถูกจากจีนยังทำให้การผลิตในประเทศและความสามารถในการแข่งขันลดลง ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลต่อการเติบโตของ CLMV ด้วยเช่นกัน
ในปี 2568 SCB EIC ประเมินว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV จะชะลอตัวลง โดยกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตที่ 3.9% (ลดลงจาก 6.0% ในปี 2567), สปป.ลาว 3.6% (จาก 4.3%), และเวียดนาม 6.3% (จาก 7.1%) ขณะที่เศรษฐกิจของเมียนมาคาดว่าจะหดตัวที่ -0.5% (จากปีก่อนที่ขยายตัว 2.3%)
ทั้งนี้ เศรษฐกิจกลุ่มประเทศ CLMV จะเผชิญกับความเสี่ยงจากภายนอกตามการพึ่งพาการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ รวมถึงความท้าทายเฉพาะของแต่ละประเทศ เช่น เวียดนามและกัมพูชามีความเสี่ยงด้านการค้าโลกจากการพึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯ สูง ขณะที่เมียนมา กัมพูชา และสปป.ลาว เผชิญความเสี่ยงภายในประเทศ เช่น ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเหตุแผ่นดินไหว ความขัดแย้งบริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา เสถียรภาพด้านต่างประเทศที่เปราะบางใน สปป.ลาว ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ดี บางประเทศมีความเปราะบางด้านเศรษฐกิจมหภาคและการเงิน เช่น การใช้เงินดอลลาร์สหรัฐบางส่วนในระบบเศรษฐกิจบางประเทศ จึงอาจได้รับผลกระทบจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม แม้จะเผชิญกับความเสี่ยงเหล่านี้ แต่ปัจจัยสนับสนุนในช่วงครึ่งปีแรกอาจช่วยพยุงเศรษฐกิจบางส่วนได้ โดยเฉพาะการเร่งส่งออกล่วงหน้า ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และตลาดแรงงานที่มีแนวโน้มดีขึ้น นอกจากนี้ เศรษฐกิจอาเซียนจะยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวและการไหลเข้าของการลงทุนจากต่างประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV ได้ในระดับหนึ่ง
โดยเศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นที่สุดในภูมิภาค CLMV โดยได้รับแรงหนุนจากบทบาทศูนย์กลางการผลิตที่น่าดึงดูดปัจจัยการย้ายฐานการผลิตมายังภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างห่วงโซ่อุปทานในประเทศที่เข้มแข็งขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เจรจาจบได้ก่อนและมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLM และสิทธิประโยชน์จูงใจเม็ดเงินลงทุน เช่น จำนวนข้อตกลงการค้าเสรี (FTAs) และนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงรุก
ขณะที่เศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะชะลอตัวลงจากผลกระทบของอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง และการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมถึงแรงกดดันเพิ่มเติมจากการทะลักเข้ามาของสินค้าจีนราคาถูก ความตึงเครียดบริเวณชายแดนกับไทยที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ จะก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าและเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม การส่งออกและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2568 ยังช่วยพยุงเศรษฐกิจในภาพรวมของทั้งปีไว้ได้บ้าง ขณะที่เสถียรภาพทางการคลังยังเอื้อให้ภาครัฐสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้หากจำเป็น
ในส่วนของ สปป.ลาว อาจจะเผชิญกับความเสี่ยงทางตรงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ไม่มากนัก แต่เศรษฐกิจภายในยังคงมีข้อจำกัดจากปัญหาหนี้ต่างประเทศสะสมสูงและภาคการเงินที่ยังเปราะบางจากปัญหาหนี้เสีย แม้สถานการณ์เงินเฟ้อสูงและปัญหาเงินกีบที่อ่อนค่าเร็วจะปรับดีขึ้นบ้าง รวมถึงความสามารถในการรองรับแรงกระแทกจากภายนอกที่ทยอยเพิ่มขึ้นสะท้อนจากสัดส่วนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเทียบมูลค่านำเข้าต่อเดือน แต่ปัญหาความเปราะบางเชิงโครงสร้างเหล่านี้ยังคงเป็นแรงกดดันเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ด้านเศรษฐกิจของเมียนมาคาดว่าจะหดตัวในปีนี้ เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ความขัดแย้งภายในที่ยังคงดำเนินอยู่ และเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด ยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจและบั่นทอนการบริโภคและการลงทุน ภายใต้ข้อจำกัดด้านนโยบายการเงินและพื้นที่ทางการคลัง รวมถึงสัดส่วนหนี้เสีย (NPL) ที่อยู่ในระดับสูง โอกาสในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจึงมีค่อนข้างจำกัด
ขณะที่ SCB EIC คาดว่าแนวโน้มการค้าระหว่างไทยกับประเทศ CLMV จะชะลอลง จากอุปสงค์ในภูมิภาคที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนในระบบการค้าโลก ความตึงเครียดบริเวณชายแดนกัมพูชากับไทย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านลบมากขึ้น แม้มูลค่าเม็ดเงินลงทุนทางตรงไหลออกจากไทยไปยังภูมิภาค CLMV กลับมาสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 แล้ว และกระจายไปในหลายสาขาธุรกิจ เช่น สาขาการเงิน การประกันภัย และการผลิตอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและความระมัดระวังของนักลงทุนในบรรยากาศโลกเช่นนี้ อาจทำให้แนวโน้มการลงทุนจากไทยชะลอตัวลง
สำหรับความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงหลายด้าน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่หากการปิดด่านชายแดนยังคงยืดเยื้ออาจกดดันแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศได้ นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยวอาจชะลอตัวลงจากความไม่มั่นคงหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น อย่างไรก็ตาม หากแรงงานกัมพูชาในไทยทยอยเดินทางกลับประเทศมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานไทยจำกัด เนื่องจากยังสามารถหาแรงงานสัญชาติอื่นทดแทนได้
เศรษฐกิจไทย ยุคทองจริงหรือ?
RT คว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวมเฉียด 100 ล.
บล.โกลเบล็ก แนะช็อป CBG – SAV / ORN เปิดตัวคอนโดฯ Green Building "THE NEXT (เจ็ดยอด 3)"
GULF โบรกฯ เชียร์ 'ซื้อ' เป้า 57 บ. - STX กู้เงิน 310 ล. พร้อมลุย เหมืองหินปูนเขาย้อย
PRM พื้นฐานแกร่ง! โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เป้าราคา 11.50บ.
SAWAD ปลื้ม! ขายหุ้นกู้ 4 รุ่นหมดเกลี้ยง