Phones





สภาพัฒน์ฯ กาง GDP ไตรมาส 2/68 ขยายตัว 2.8%

2025-08-18 17:07:57 116



นิวส์ คอนเน็คท์ - สภาพัฒน์ฯ เปิดตัวเลข GDP ไตรมาส 2/68 ขยายตัว 2.8% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ปรับเป้าทั้งปีโตในช่วง 1.8-2.3% โดยมีค่ากลางที่ 2% รับแรงหนุนการลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น การบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2/2568 โดยระบุว่า สศช. ปรับตัวเลขคาดการณ์จีดีพีเพิ่มขึ้นจากเดิม 1.3 – 2.3% (ค่ากลางอยู่ที่ 1.8%) เพิ่มเป็น 1.8 – 2.3% (ค่ากลางอยู่ที่ 2%) โดยเป็นการปรับตามปริมาณการค้าโลกที่เพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 1.8% ขณะที่เศรษฐกิจของคู่ค้ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 0.3% ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 32.5 – 33.5 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าจะอยู่ที่ 33 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.57 ล้านล้านบาท 

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวได้ 2.8% ชะลอลงจากการขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 1 โดยเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมา ได้ปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของการผลิตภาคนอกเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะที่การผลิตภาคเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง

สำหรับด้านการใช้จ่าย การอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาลชะลอตัวลง การส่งออกสินค้า และบริการขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การสะสมทุนถาวรเบื้องต้น และการนำเข้าสินค้า และบริการเร่งตัวขึ้น 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวในช่วง 1.8 – 2.3% (ค่ากลางประมาณการ 2.0%) ชะลอลงจาก 2.5% ในปี 2567 ตามแนวโน้มการลดลงของปริมาณการส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งหลังของปี ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังการผลิตภาคอุตสาหกรรม ท่ามกลางแนวโน้มการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงจากภาระหนี้สินของครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง ความผันผวนของราคาและผลผลิตภาคการเกษตร และความผันผวนของระบบเศรษฐกิจการค้าโลก 

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับแรงสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายลงทุนภาครัฐ การขยายตัวต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และการปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน ทั้งนี้ คาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 2.1% และ 1.0% ตามลำดับ ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐ คาดขยายตัว 5.5% อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ในช่วง 0.0 – 0.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.1% ของ GDP