Phones





POLY เคาะราคา IPO ที่6.80 บ./หุ้น เปิดจองซื้อ 9 - 11 พ.ย.นี้

2022-11-07 12:22:47 128



นิวส์ คอนเน็คท์ - POLY เคาะราคาขาย IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น หุ้นละ 6.80 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อระหว่าง 9 - 11 พ.ย.นี้ ปักธงเทรด SET 16 พ.ย. 65 โชว์งบสุดสตรอง กำไรโตอย่างมีนัยสำคัญ เงินระดมทุนใช้รองรับแผนขยายตลาดไปยังลูกค้าในอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY เปิดเผยว่า POLY ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) จำนวน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.80 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายนนี้ คาดเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 หมวดธุรกิจ ยานยนต์ (AUTO) ในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า "POLY"  

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 6.80 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 15.0 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565) ทั้งนี้ POLY พิจารณานำ P/E ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของคู่เทียบกลุ่มยานยนต์ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในช่วง 30-90 วันทำการ นับจากวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 
27 ตุลาคม 2565 มาเป็นข้อมูลประกอบการเปรียบเทียบ ซึ่งมีค่าถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ P/E อยู่ระหว่าง 22.0 - 24.7 เท่า  

นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) (POLY) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 785 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 370 ล้านบาท ใช้สำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 320 ล้านบาท และใช้สำหรับลงทุนในโครงการขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม 95 ล้านบาท ตามโครงการในอนาคต เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป 

สำหรับโครงการในอนาคตของ POLY ประกอบด้วย โครงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (พลาสติก) ในอาคารผลิต โรงงานที่ 1 สนับสนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 550 ตันต่อปี (เพิ่มขึ้นประมาณ 16.6% จากกำลังการผลิตทั้งหมดในปี 2564) แบ่งเป็น ค่าปรับปรุงบริเวณสายการผลิต ค่าระบบสาธารณูปโภค 19.5 ล้านบาท และเครื่องจักรผลิตตั้งแต่ 250 ตันถึง 650 ตัน จำนวน 11 เครื่อง เครื่องมืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวม 124.1 ล้านบาท ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ IRR 19% คาดจำนวนปีที่คืนทุน ประมาณ 5 ปี

ปัจจุบัน POLY มีโรงงาน 2 แห่ง อยู่ที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ณ สิ้นปี 2564 กำลังการผลิต 2 โรงงาน รวมประมาณ 3,300 ตันต่อปี อัตราการใช้กำลังการผลิตรวมประมาณ 60% ขณะที่ไตรมาส 2/2565 อัตราการใช้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 70%

ด้วยกลยุทธ์ ของ POLY มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรมการผลิตใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มความสามารถในการทำกำไร จึงตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก ในสัดส่วนเท่าๆ กัน โดยจะลดสัดส่วนรายได้จากกลุ่มยานยนต์ (Automotive) ให้ต่ำกว่า 50% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี โดยไม่ลดปริมาณรายได้จากการขาย และตั้งเป้าให้สัดส่วนรายได้จากการขายในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical) และสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) มีสัดส่วนใกล้เคียงกันภายในระยะเวลา 3-5 ปีจากนี้ นอกจากนี้ เตรียมพร้อมสำหรับขยายไปยังอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาสที่มีความยั่งยืน  

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 - 2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 581.7 ล้านบาท 523.2 ล้านบาท และ 787.1 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการขยายธุุรกิจเข้าสู่กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง และปรับกลยุทธ์ในด้านกำลังการผลิตใหม่ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 13.1 ล้านบาท 21.8 ล้านบาท และ 120.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้ง การใช้กำลังการผลิตโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17.7% 19.2% และ 28.3% อัตรากำไรสุทธิ 2.3% 4.2% และ 15.4% ตามลำดับ 

ด้านผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% กำไรสุทธิอยู่ที่ 78.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน