Phones





NTSC เคาะราคา IPO ที่ 26.25 บ/หุ้น เปิดจอง 1- 3 ก.พ.นี้

2023-01-30 13:15:10 1277




นิวส์ คอนเน็คท์ - NTSC เคาะราคาขาย IPO ที่หุ้นละ 26.25 บาท เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อวันที่ 1 - 3 ก.พ.นี้ มั่นใจผลตอบรับดี จากปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต ชู NTSC ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยอย่างมีคุณค่า ของอาหารคน-สัตว์ พร้อมนำเงินระดมทุนปลดล็อกศักยภาพการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด ปักธงเทรด mai 9 ก.พ.นี้

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) หรือ NTSC ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ที่ราคาหุ้นละ 26.25 บาท จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์นี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 26.25 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 22 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ทั้งนี้ NTSC พิจารณานำ P/E ของ คู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในช่วง 30 และ 180 วันทำการ นับจากวันที่ 18 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 12 มกราคม 2566 มาเป็นข้อมูลประกอบการเปรียบเทียบ 

ด้านดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท NTSC กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 628.2 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้สำหรับลงทุนโครงการในอนาคต ได้แก่ ลงทุนในโครงการผลิตสารกระตุ้นความน่ากินในสัตว์เลี้ยง (Palatability Enhancer Project) มูลค่า 4.9 ล้านบาท , โครงการลงทุนในเครื่องจักรสำหรับการผลิตสินค้า OEM และสินค้าประเภท Food Preparation มูลค่า 12.3 ล้านบาท รวมทั้ง ใช้ชำระหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 400 ล้านบาท และ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 211 ล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เติบโตก้าวกระโดดได้ในอนาคต

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 796.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของวัตถุเจือปนในอาหารสัตว์ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 36.8% เนื่องจากในปี 2565 กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและสัตว์เศรษฐกิจมากขึ้น และมีกำไรสุทธิ 62.8 ล้านบาท โดยมีโครงสร้างรายได้ของกลุ่มบริษัทประกอบด้วย รายได้จากการนำเข้า ผลิตและจัดจำหน่ายวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารคน คิดเป็นสัดส่วนหลัก ราว 90% ส่วนรายได้จากวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารสัตว์ มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10%