Phones





เรื่องน่ารู้.. MGI หุ้นไอพีโอน้องใหม่

2023-07-22 10:29:30 351



บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เป็นอีก 1 หุ้นน้องใหม่ IPO ที่เตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ หรือ mai หลังจากล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) อนุญาตแบบคำเสนอขายหลักทรัพย์ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) แล้ว

MGI ดำเนินธุรกิจอะไร ผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นอย่างไร รวมถึงผู้ถือหุ้นและผู้บริหารมีใครบ้าง เราจะพาไปทำความรู้จักกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจการลงทุน

บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (หมหาชน) หรือ MGI ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2556 โดย "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" และ "รัชพล จันทรทิม" ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจจัดประกวดนางงาม ทั้งระดับในประเทศและระดับต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 63 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ จากนั้นวันที่ 11 มี.ค. 65 เพิ่มทุนอีกครั้งเป็น 75 ล้านบาท และวันที่ 8 ม.ย. 65 แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) จาก 100 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้งเป็น 105 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 60 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท เพื่อเสนอขาย IPO ซึ่งหลังการเสนอขาย IPO จะมีจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มเป็น 210 ล้านหุ้น จากเดิม 150 ล้านหุ้น
ปัจจุบัน MGI ดำเนินธุรกิจแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) : จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคทั้งสินค้าที่อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ได้แก่ Miss Grand, MGI และ NangNgam รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ซึ่งสินค้าจะประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย, กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล, กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอม, กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริม

2. ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant) : จัดประกวดนางงามทั้งระดับในประเทศและระดับต่างประเทศ โดยการประกวดนางงามในประเทศเพื่อค้นหาผู้หญิงไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสม มาดำรงตำแหน่ง "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์" เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดเวทีระดับนานาชาติต่อไป

3. ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) : แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ธุรกิจสื่อ (Media) จะซื้อเวลาออกอากาศ (Airtime) รายการที่มีชื่อเสียงตามสื่อโทรทัศน์ และจำหน่ายช่วงเวลาออกอากาศให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจจะโฆษณาสินค้า รวมถึงผลิตรายการผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดีย เช่น Youtube, TikTok, Facebook, Instragram และ Netflix เป็นต้น 
สำหรับธุรกิจบันเทิง (X-Periences) เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กลุ่มลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับนางงามและศิลปินของบริษัท เช่น การจัดคอนเสิร์ต "อิงฟ้ามหาชน", "MGT x ระเบียบวาทศิลป์" และกิจกรรม "Meet & Greet" เป็นต้น โดยรายได้หลักจากธุรกิจบันเทิงจะมาจากรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดง รวมถึงค่าสมาชิกในการสมัครเข้าชมการแสดงของบริษัทบนแพลทฟอร์ม Facebook นอกจากนี้มีการถ่ายทำซีรีย์เพื่อออกอากาศช่องทาง Youtube ภายใต้ชื่อ GrandTV อาทิ "Show Me Love" ซึ่งมีรายได้จากการขายค่าสมาชิกรายเดือนให้ผู้ที่สมัครสมาชิกสามารถเข้าชมซีรีย์ 

4. ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent) : บริษัทจะทำสัญญากับผู้ชนะการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์, ผู้ได้รับอันดับรองลงมา และผู้ชนะมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นศิลปินในสังกัดของบริษัทเพื่อปฎิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายตามที่บริษัทจัดหางานมาให้ ได้แก่ งานรีวิวสินค้า งานพิธีกร งานโชว์ตัว งานเดินแบบ งานแสดงภาพยนตร์ เป็นต้น

สำหรับโครงสร้างรายได้ของ MGI ณ สิ้นปี 65 มาจาก 1.ธุรกิจพาณิชย์ 118.83 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 34.96%, 2.ธุรกิจประกวดนางงาม 71.66 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.40%, 3.ธุรกิจสื่อและบันเทิง 68.52 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 21.42%, 4.ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 63.09 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19.73% และ 5. รายได้อื่น ๆ 4.76 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.49%

ด้านผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (63-65) มีรายได้ 338.76 ล้านบาท, 344.93 ล้านบาท และ 319.61 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิ 44.81 ล้านบาท, 29.01 ล้านบาท และ 47.85 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ไตรมาส 1/66 มีรายได้ 83.03 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9.22 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/66 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 219.80 ล้านบาท, หนี้สินรวม 122.58 ล้านบาท, ส่วนผู้ถือหุ้นรวม 97.22 ล้านบาท, อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น 1.26 เท่า, อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 15.12% และ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 30.38%

สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MGI มีเพียง 3 ราย ก่อนขายไอพีโอ ประกอบด้วย 1.ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ถือหุ้นจำนวน 90 ล้านหุ้น สัดส่วน 60%, 2.รัชพล จันทรทิม ถือหุ้นจำนวน 59.99 ล้านหุ้น สัดส่วน 39.99% และ 3.นพวรรณ จุลเจือ ถือหุ้นจำนวน 200 หุ้น สัดส่วนต่ำกว่า 0.01% โดยหลังจากการขายหุ้น IPO "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" จะเหลือสัดส่วนถือหุ้น 42.86%, "รัชพล จันทรทิม" เหลือถือ 28.56%, "นพวรรณ จุลเจือ" ถือต่ำกว่า 0.01% เท่าเดิม และจะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยเพิ่มมา 60 ล้านหุ้น สัดส่วน 28.57%

ขณะที่ผู้บริหาร MGI ณ วันที่ 31 มี.ค. 66 มีผู้บริหารและกรรมการรวม 7 ราย ดังนี้
1.ดร.มนัส โนนุช : ประธานกรรมการ/กรรมการอิสระ
2.รศ.สุชาติ เหล่าปรีดา : ประธานกรรมการตรวจสอบ/กรรมการอิสระ/กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน/กรรมการบริหารความเสี่ยง
3.ดร.วิเชียร ชุบไธสง : กรรมการตรวจสอบ/กรรมการอิสระ/ประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
4. ผศ.ดร.จิรศิลป์ จยาวรรณ : กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ
5. นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล : กรรมการ/ประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
6. นายรัชพล จันทรทิม : กรรมการ/กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน/ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง/กรรมการบริหาร/รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
7. นายศักดิ์สิทธิ์ บุญวานิช : กรรมการ/กรรมการบริหารความเสี่ยง/กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน

MGI เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมี บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด และ นายชัยสิทธิ์ เล่าเรียนดี เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 66 มูลค่าทางบัญชีของบริษัท (Book Value) อยู่ที่ 0.65 บาทต่อหุ้น โดยจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai หมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งล่าสุด ก.ล.ต.อนุญาตแบบคำเสนอขายหลักทรัพย์แล้ว

วัตถุประสงค์การระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนซื้ออาคารและดำเนินการปรับปรุงเพื่อเป็นอาคารสำนักงานใหม่ ประมาณ 165 ล้านบาท, พัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง ประมาณ 50 ล้านบาท, พัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน