Phones





PSP จ่อเข้าเทรด SET หลัง ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งแล้ว

2023-08-09 09:52:19 242



นิวส์ คอนเน็คท์ - PSP เบอร์หนึ่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นครบวงจรของไทยและอาเซียน เตรียมขายไอพีโอจำนวน 350 ล้านหุ้น เข้าเทรด SET ภายในไตรมาส 3 นี้ หลัง ก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่งแล้ว ลุยระดมทุนขยายธุรกิจ-เคลียร์หนี้ลดต้นทุนการเงิน ผลประกอบการ 3 ปีหลัง (63-65) โตแจ่มทั้งรายได้และกำไร

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 350 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยได้รับอนุมัติแบบไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว และอยู่ระหว่างการกำหนดราคาเสนอขายไอพีโอ คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ภายในไตรมาส 3/66 นี้
วัตถุประสงค์การระดมทุน จะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน แบ่งเป็น เงินกู้ยืนเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการซื้อ U.C. Marketing และเงินกู้ยืมระยะสั้น ที่เหลือจะใช้ลงทุนขยายประสิทธิภาพการผลิต และหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับ PSP เป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตและการบรรจุผลิตภัณฑ์ การให้บริการศูนย์กระจายน้ำมันเชื้อเพลิง (Terminalling) การจัดเก็บและการให้บริการศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงการให้บริการจัดการด้านโลจิสติกส์ โดยบริษัทฯ มีกำลังการผลิตน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า รวมสูงที่สุดเมื่อเทียบเคียงกับผู้พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นอิสระ (Independent Blender) ในประเทศไทย โดยมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้า

จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนานกว่า 33 ปี ทำให้บริษัทฯ มีองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีห้องปฏิบัติการที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและตอบสนองเทรนด์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว 
โดยปัจจุบันมีสูตรผลิตภัณฑ์รวมกันมากกว่า 1,000 สูตร และมีฐานลูกค้ามากกว่า 290 รายจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น OR, ESSO, BCP, Chevron Thailand, ENEOS และ PETRONAS ที่ให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ครบวงจรของบริษัทฯ และมีกำลังการผลิตรวมกว่า 280 ล้านลิตรต่อปี ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์สองฝั่งแม่น้ำท่าจีน เป็นเจ้าของท่าเรือเองถึง 5 แห่ง โดยมีสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจร (สัดส่วนรายได้ 75%), ธุรกิจซื้อมาขายไปวัตถุดิบและสินค้า (สัดส่วยรายได้ 21%), ธุรกิจโลจิสติกส์ (สัดส่วนรายได้ 4%) และ ธุรกิจลงทุนในแพลตฟอร์มชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากในประเทศ 83% และต่างประเทศ 17% 

สำหรับผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2563-65) บริษัทมีรายได้ 7,566.7 ล้านบาท, 10,783.7 ล้านบาท และ 13,204.4 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 32% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 387 ล้านบาท, 547.6 ล้านบาท และ 546.4 ล้านบาท ตามลำดับ หรืออัตราการเติบโตเฉลี่ย 19% ต่อปี