Phones





SCB Abacus คว้าเงิน400ล้านบาทในการระดมเงินทุนรอบ Series A

2021-09-16 17:33:04 440



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - SCB Abacus ผู้ รับเงินลงทุนมูลค่ากว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 400 ล้านบาท จาก Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia และ CAI Partners เดินหน้าต่อยอดธุรกิจสินเชื่อ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยี และการให้บริการ สู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในธุรกิจสินเชื่อออนไลน์
 
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) เปิดเผยว่า “แอปพลิเคชัน เงินทันเด้อ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่ไม่ได้รับโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบจากธนาคาร โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ Machine Learning ในการปล่อยสินเชื่อ และมอบประสบการณ์การขอสินเชื่อที่สะดวกสบายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นความตั้งใจของบริษัทที่จะสร้างโอกาสที่ดีกว่าในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มการขอสินเชื่อออนไลน์
 
โดยปัจจุบันพบว่าราว 60% ของลูกค้าที่แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ให้ เคยถูกปฏิเสธจากธนาคารมาก่อน แต่ด้วยการเลือกใช้ข้อมูลทางเลือกที่หลากหลายประกอบกับเทคนิคการพัฒนาโมเดลแบบ Machine Learning และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ทำให้การขอสินเชื่อออนไลน์นั้นสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ โดยบริษัทยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายบริการและเทคโนโลยีที่มีอยู่ไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคารอีกด้วย
 
ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ใช้บริการได้ภายใน 5-20 นาที โดยนับจากการลงทะเบียนหลังเข้าสู่แอปพลิเคชัน โดยปัจจุบัน แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” มียอดดาวน์โหลดราว 5 ล้านครั้ง และมียอดสินเชื่อและรายได้ในปีนี้เติบโตสูงกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากการระดมเงินทุน Series A ครั้งนี้ ทำให้ SCB Abacus สามารถเดินหน้าเต็มกำลังกับภารกิจสร้างสินเชื่อทางเลือกที่ดีกว่า โดยเงินลงทุนในรอบนี้จะนำไปใช้ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน อีกทั้งสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตในตลาดสินเชื่อออนไลน์ โดยมีเป้าหมายภายในปี 65 ยอดสินเชื่อและรายได้จะเติบโตสูงขึ้นกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีนี้ และบริษัทยังคาดว่าการระดมเงินทุนครั้งต่อไปใน Series B น่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปลายปีหน้าเช่นกัน
 
“SCB Abacus ถือว่าเป็นฟินเทครายแรกที่ผันตัวออกมาจากธุรกิจธนาคาร โดยที่ผ่านมาเราได้รับการสนับสนุนจากทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ และ SCB 10X ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ SCB Abacus พัฒนาขึ้นมาเอง เสริมทัพด้วยทีมงานคุณภาพและความเชี่ยวชาญจากกลุ่มนักลงทุนชั้นนำของโลก ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมบริการทางการเงิน และสร้างความสะดวกสบายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ จากการระดมเงินทุนครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า SCB Abacus จะสามารถขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจสินเชื่อทางเลือกที่มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาสินเชื่อนอกระบบ” ดร.สุทธาภา กล่าว
 
ณิชาภัทร อาร์ค ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยของ Openspace Ventures กล่าวว่า “Openspace Ventures มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ SCB Abacus เข้าร่วมพอร์ตการลงทุนของเราที่มีการเติบโตอย่างมากในประเทศไทย ทางเรามีความเชื่อมั่นว่า SCB Abacus มีศักยภาพในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญในตลาดประเทศไทย ทีมงานที่มากความสามารถ และเทคโนโลยีระดับโลก ที่พร้อมจะขึ้นเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อนอกระบบในประเทศไทย และสามารถขยายผลเชิงบวกได้อย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมสร้างความเคลื่อนไหวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้”
 
คาร์เมน หยวน พาร์ทเนอร์ Vertex Ventures Southeast Asia กล่าวเสริมว่า บริษัทมีความยินดีที่ SCB Abacus เป็นการลงทุนในบริษัทไทยที่ก่อตั้งโดยคนไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งบริษัทมีความตั้งใจที่จะสนับสนุน SCB Abacus ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นถึง 84% ของกิจการที่มีอยู่ในประเทศไทยกว่า 3 ล้านกิจการ และเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจในประเทศไทย โดยเชื่อว่า SCB Abacus มีความสามารถในการขับเคลื่อนและพัฒนาการให้บริการทางการเงินให้มีความเข้าถึงได้มากขึ้นเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มนี้ได้
 
ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SCB Abacus กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนักลงทุนระดับโลกอย่าง Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia และ CAI Partners เราเชื่อมั่นว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานการเติบโตของ SCB Abacus ได้ทั้งในระยะยาวและเป็นการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป