Phones





TFMเคาะราคาIPOที่13.50 บาท เปิดจองซื้อ 19 - 21 ต.ค. นี้

2021-10-18 16:42:24 297



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – TFM ประกาศราคาขายหุ้น IPO ที่ 13.50 บาทต่อหุ้น เตรียมพร้อมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อวันที่ 19 – 21 ต.ค. 2564 เดินหน้านำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกใน SET เดือน ต.ค.นี้
 
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 13.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในช่วงราคาที่ใช้ทำ Bookbuilding ที่ราคานี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 21.7 เท่า
 
ทั้งนี้ หากพิจารณาผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดยเตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 19 – 21 ต.ค.64 และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนต.ค.นี้
 
โดย TFM เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 109.3 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90.0 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU จำนวน 19.3 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดไม่เกิน 21.9% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต
 
“การเดินหน้าเข้าระดมทุนของ TFM ในครั้งนี้ ถือเป็นการพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของกลุ่มไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ประกอบกับด้วยปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคง มีความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยการกำหนดราคาหุ้น IPO ของ TFM ที่ 13.50 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากศักยภาพการเติบโตและแผนการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำในต่างประเทศ เพื่อสร้างรากฐานการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้ TFM ในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายพิเชษฐ กล่าว
 
นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจแบบครบวงจร เปิดเผยว่า นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จและความภาคภูมิใจในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการเข้าระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจของ TFM ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตลาดในประเทศไทยเท่านั้น บริษัทยังได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศที่อุตสาหกรรมสัตว์น้ำมีศักยภาพในการเติบโตสูง ผ่าน Model ธุรกิจที่เหมาะสมกับแต่ละประเทศ เช่น ศรีลังกา มาเลเซีย บังคลาเทศ และพม่า เป็นต้น
 
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเข้าทำสัญญาความร่วมมือกับ AVANTI ซึ่งเป็นผู้นำการผลิตอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินเดีย โดยการใช้ชื่อทางการค้าและสูตรการผลิตของ TFM ในการขายสินค้าในประเทศอินเดีย และการเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตร จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในช่วง 3 – 5 ปีข้างหน้า
 
ทั้งนี้ TFM มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำการดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์น้ำ ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศ พร้อมใช้ประโยชน์จากความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนาน ความพร้อมทางด้านบุคลากร และแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ และยังเป็นตัวแทนของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารสัตว์เศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคเอเชีย
 
ขณะที่บริษัทมีกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ 3 แนวทาง ได้แก่ (1) รักษาและพัฒนาความเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศ ผ่านความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมช่วยสนับสนุนการเติบโตของลูกค้าฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น การให้วงเงินการซื้อสินค้าและระยะเวลาการให้สินเชื่อ (Credit Term) ที่เหมาะสม, ศึกษาข้อมูล ช่วยแก้ไขปัญหา ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างเหมาะสม, พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและพัฒนาสายพันธุ์ลูกกุ้งที่มีคุณภาพ, นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความคุ้มค่า (Proof of Performance) ของผลิตภัณฑ์
 
(2) พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพการผลิตตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ผ่านการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และสูตรอาหาร รวมถึงสูตรอาหารสำหรับสัตว์น้ำชนิดใหม่ เพื่อส่งเสริมให้มีสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น อาหารปลากะพงยักษ์ ปลาเก๋า อาหารปลาสลิด อาหารปู และปลากดคัง เป็นต้น พร้อมพัฒนาสูตรอาหารโดยใช้วัตถุดิบใหม่ เพื่อลดการพึ่งพิงวัตถุดิบประเภทใดประเภทหนึ่ง เช่น การใช้โปรตีนจากพืช และการพัฒนาสูตรการผลิตที่ลดปริมาณการใช้น้ำมันปลา เป็นต้น และ (3) ขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยมีปัจจัยสำคัญในการพิจารณา ได้แก่ ความเป็นไปได้ของการลงทุน อัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ ความเสี่ยงและแนวทางการบริหารหรือลดความเสี่ยง ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นสูงสุด
 
TFM ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์อีก 3 ราย เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ TFM ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)