Phones





HL จ่อขายไอพีโอ 72 ล้านหุ้น เทรด mai กลางเดือน ธ.ค. นี้

2021-11-02 13:34:55 537




นิวส์ คอนเน็คท์ - HL เตรียมขายไอพีโอ 72 ล้านหุ้น คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลางเดือน ธ.ค. นี้ หวังนำเงินขยายสาขาเพิ่ม ชูจุดเด่นเป็นธุรกิจร้านขายยาแบบครบวงจร

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ของ บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) (HL) ประเมินว่า HL จะสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 72 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 26.47% และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในกลางเดือน ธ.ค. นี้

โดย HL มีทุนจดทะเบียนจำนวน 136 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 100 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 136 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 272 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

ด้านภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายสาขาใหม่ และปรับปรุงสาขาเดิม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขารวม 25 สาขา โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีการขยายสาขาปีละ 4-5 แห่ง สร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการต่อยอดธุรกิจนวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อผลักดันการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

"HL มีเป้าหมายหลักของการเข้าจดทะเบียนใน mai เพื่อจะยกระดับมาตรฐานองค์กร สามารถตรวจสอบได้ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าจะมีความมั่นใจในการเลือกซื้อยา เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อุปกรณ์การแพทย์กว่า 10,000 รายการของบริษัทฯ ซึ่งมีคุณภาพได้มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี" 

ส่วนภาพรวมผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มฯบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 791.21 ล้านบาทในปี 2561, จำนวน 915.51 ล้านบาทในปี 2562 และจำนวน 1,080.11 ล้านบาทในปี 2563 คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 15.71% และ17.98% สำหรับปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 556.76 ล้านบาท 

ขณะที่ กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากจำนวน 0.39 ล้านบาทในปี 2561 เพิ่มเป็น จำนวน 21.77 ล้านบาทในปี 2562 และเป็นจำนวน 52.08 ล้านบาท ในปี 2563 ส่วนงวด 6 เดือนแรกของ ปี 2564 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 32.29 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.80% โดยอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 5.09% และเพิ่มขึ้นจากปี 2563 อยู่ที่ 4.82% จากการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น