Phones





PTG เปิดตัว MAX VENTURES ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ

2022-11-25 13:49:22 267



นิวส์ คอนเน็คท์ - PTG เปิดตัว MAX VENTURES ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้และจัดหาโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับบริษัทในเครือ PTG พร้อมเดินหน้าเฟ้นหาพันธมิตรสตาร์ทอัพสุดยอดไอเดียและสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ หวังปั้นธุรกิจร่วมกับคู่ค้าให้เป็นแกนกลางสำคัญในการสร้างนวัตกรรม ความแข็งแกร่ง และต่อยอดธุรกิจในเครือ PTG เพื่อความอยู่ดีมีสุขของคนไทย

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัท แมกซ์ เวนเจอร์ส จำกัด (MAX VENTURES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTG ก่อตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเป็น Corporate Venture Capital และเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทสตาร์ทอัพ (Startup) ที่มีศักยภาพสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับคู่ค้าในรูปแบบต่าง ๆ และเป็นแกนกลางสำคัญในการสร้างนวัตกรรม หรือ ธุรกิจ New S-Curve รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งและต่อยอดธุรกิจในเครือข่ายของ PTG เพื่อความอยู่ดีมีสุขของคนไทย
ทั้งนี้ MAX Ventures จะทำหน้าที่ในการสร้างรายได้และจัดหาโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับบริษัทในเครือ PTG ประกอบด้วย 3 วิธีการ ได้แก่ 1. Incubation เริ่มต้นสร้างธุรกิจใหม่ ตั้งแต่การสรรหาไอเดียใหม่ ๆ ที่มีโอกาสในการพัฒนาเพื่อริเริ่มทดสอบไอเดียกับกลุ่มลูกค้าตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นสินค้าและบริการจริงนับเป็นการสร้างธุรกิจใหม่ที่เป็นช่องทางรายได้ใหม่ให้กับบริษัท

2.Investmentลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท รวมไปถึงธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงและช่วยสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับคนไทย และ 3.Co-Creation เป็นการร่วมสร้างธุรกิจ หรือสินค้าและบริการร่วมกับพันธมิตร (Partner) โดยเปิดรับองค์กรทุกรูปแบบสำหรับการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทและความอยู่ดีมีสุขของคนไทยไปด้วยกัน 

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละปี MAX Ventures จะมีการจัดโครงการ Incubation Program ในการบ่มเพาะธุรกิจภายนอกองค์กรให้ร่วม Synergy สร้างโซลูชันใหม่ร่วมกับบริษัทในเครือ PTG ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยทาง MAX Ventures จะเข้าไปร่วมมือในการออกแบบกิจกรรมของมหาวิทยาลัยให้มีการเตรียมความพร้อมธุรกิจหรือผู้ประกอบการภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยให้สมัครเข้าร่วมโครงการโดยปัจจุบันมีหน่วยงานในมหาวิทยาลัย จำนวน 5 แห่งที่ร่วม MOU กับ MAX Ventures ประกอบด้วยสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล, อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, และสำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ด้าน ดร.วัลภา สันต์ธรรมารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวว่า สำหรับแนวธุรกิจ MAX Ventures ได้ให้ความสำคัญในการร่วมลงทุนมีด้วยกัน 4 กลุ่มหลัก โดยเกิดจากแนวคิดในการพัฒนาธุรกิจที่เน้นการเชื่อมโยงและการทำงานร่วมกันทั้งจากภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ได้แก่

1. Connection เป็นศูนย์กลางสร้างความเชื่อมโยงธุรกิจที่สามารถ Connect ประชากรคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนให้ได้เข้ามาอยู่ในเครือข่ายของ PTG ทำให้สามารถส่งต่อพัฒนาต่อยอดประสบการณ์ที่ดีให้กับคนไทยได้อย่างกว้างขวาง

2. WellnessandWellbeingสร้างศูนย์กลางใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนพัฒนาความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย 

3. Developing Opportunities เป็นศูนย์กลางในการสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กในการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่บนความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท PTG ในการลดต้นทุนในการดำเนินชีวิตหรือเป็นแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจรายย่อยที่ขาดเงินทุนในการพัฒนาสินค้าและบริการแต่มีโมเดลธุรกิจที่มีโอกาสในการสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยธุรกิจที่สนใจในการลงทุน ได้แก่ธุรกิจ Startup ในรูปแบบแพลตฟอร์มเช่นการท่องเที่ยวการขนส่งเป็นต้น 

และ 4.Unmatched Conveniences (ValueaddedExperience) ธุรกิจที่สามารถมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายและมีคุณค่ากว่าใครให้ลูกค้า รวมถึงธุรกิจที่สามารถพัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าและส่งเสริมสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ของบริษัทในเครือ PTG เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดจนการเข้าไปอยู่ในชีวิตความเป็นอยู่ของลูกค้าอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการลงทุนในทางตรง ด้วยการสนับสนุนด้านการเงินให้แก่สตาร์ทอัพ และทำงานร่วมกันที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว MAX Ventures ยังสนับสนุนด้านองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจ ตลอดจนทรัพยากรอื่น ๆ เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน รวมถึงความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพในประเทศไทย
ตัวอย่างบริษัทที่ MAX Ventures ร่วมลงทุน (Investment Portfolio) คือ 360 TRUCK แพลตฟอร์มจองรถบรรทุกขนส่งที่เล็งเห็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมการขนส่งซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนทุกธุรกิจในประเทศ และมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี โดย 360 TRUCK เป็นแพลตฟอร์มจองรถบรรทุกขนส่งที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหา “รถบรรทุกเที่ยวเปล่า” หรือการตีรถเปล่ากลับเมื่อส่งสินค้าที่ปลายทางเสร็จโดยการใช้ระบบจับคู่งานขนส่งอัจฉริยะหรือ SmartAlgorithm ที่ช่วยจับคู่รถเที่ยวเปล่ากับงานขนส่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้แล้วยังช่วยให้ผู้ขนส่งสามารถเข้าถึงงานขนส่งที่น่าเชื่อถือทั่วประเทศได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว 

ซึ่งปัจจุบันแพลตฟอร์ม 360 TRUCK ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ขนส่งรถบรรทุกรวมถึงเจ้าของสินค้าที่มีการใช้รถขนส่งสินค้าเป็นประจำ และมีรถขนส่งเข้าร่วมรับงานอยู่ในระบบแล้วกว่า 58,000 คัน