Phones





PHG เคาะราคาไอพีโอ 21 บ./หุ้น เปิดจองซื้อ 28–30 มิ.ย.นี้

2023-06-27 18:25:17 137



นิวส์ คอนเน็คท์ - “แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป” แต่งตั้ง “บล.กรุงศรี และ บล.คิงส์ฟอร์ด” เป็นลีดอันเดอร์ไรท์เตอร์ พร้อมโคอันเดอร์ไรท์เตอร์อีก 3 แห่ง เคาะราคา IPO ที่ 21.00 บาท/หุ้น เสนอขาย 54 ล้านหุ้น จองซื้อวันที่ 28–30 มิ.ย. 66 คาดเข้าซื้อขาย SET วันแรก 6 ก.ค. 66 นี้
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 นายรณชิต แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG พร้อมด้วย นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ลงนามแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม หรือ (Joint Lead Underwriter) พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย โดย PHG กำหนดราคาไอพีโออยู่ที่ 21 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-30 มิ.ย. 66 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET วันที่ 6 ก.ค. 66 นี้

นายรณชิต เปิดเผยว่า PHG ประกอบธุรกิจหลักคือ ให้บริการทางการแพทย์ภายใต้ กลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนกว่า 36 ปี พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบริการทางการแพทย์ทั่วไปและเฉพาะทางกว่า 20 สาขาที่พร้อมให้บริการดูแลรักษา และให้คำปรึกษาสำหรับผู้บริการในทุกๆกลุ่ม รวมถึงให้บริการศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมงที่มีศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด หรือ Open Heart Surgery ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน ระดับ 1 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียวใน สปสช. เขต 4 ซึ่งประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี และนครนายก
สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการช่วงปี 2566-2569 ประกอบไปด้วย 1.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถภายในปี 2567, 2.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 1 ภายในปี 2567, 3.เพื่อเป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 2569, 4.เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 2567, 5.เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินบางส่วนภายในปี 2566 และ 6.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2566

“หลังจากการแต่งตั้งอันเดอร์ไรท์เตอร์ และกำหนดราคาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SET และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่จากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดย PHG มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจบริษัทให้แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยเพิ่มเติม การซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับ PHG อย่างมั่นคงในอนาคต” นายรณชิตกล่าว

นางสาวเดือนพรรณ กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 54,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นไม่เกิน 18.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)

โดย PHG เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ภายใต้โรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต สามารถรองรับผู้รับบริการทางการแพทย์จากคนในจังหวัด กรุงเทพตอนเหนือ ปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง โดยให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มลูกค้าภายใต้สวัสดิการภาครัฐ และลูกค้าชาวต่างชาติ โดยปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต มีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง ประกอบด้วยโรงพยาบาลแพทย์รังสิต โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต จำนวน 155 เตียง 59 เตียงและ 56 เตียง ตามลำดับ

ขณะที่ผลประกอบการสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 63-65 และสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 66 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.64 ล้านบาท 317.48 ล้านบาท 293.10 ล้านบาท และ 44.55 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.73%, 15.99%, 14.27% และ 9.11% ตามลำดับ
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า การกำหนดราคาหุ้น PHG ที่จะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป ใช้วิธีการทำสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุนสถาบันทั้งไทย และต่างประเทศ โดยมีราคาเสนอขายที่ 21.00 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 28 – 30 มิ.ย. 66 และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายวันแรกใน SET ภายในวันที่ 6 ก.ค. 66

นางสาวพิมพ์พิชญธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า การกำหนดราคาหุ้น IPO ของ PHG ในราคาหุ้นละ 21.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ Price to Earnings Ratio : P/E เท่ากับ 26.58 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในรอบ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 65 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 66 ซึ่งเท่ากับ 238.24 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ หรือ Fully Diluted ซึ่งเท่ากับ 300,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.79 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าว คำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งราคาเสนอขายในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของ PHG และแผนการนำเงินระดมทุนที่ได้จากประชาชนเป็นครั้งแรกไปใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต ถือว่ามีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุน