Phones





PTG แกร่งทุกมิติ ชู Non-oil เรือธง

2025-06-25 13:56:46 53



PTG แกร่งทุกมิติ ชู Non-oil เรือธง (สกู๊ปพิเศษ)

ติด Fortune Southeast Asia 500 ปีที่ 2
เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งกับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ที่ล่าสุดได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยในปีนี้ขยับขึ้นจากอันดับที่ 58 มาอยู่ที่อันดับ 48 ในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ขึ้นสู่อันดับที่ 11 ของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากการจัดอันดับโดย นิตยสาร Fortune ซึ่งอ้างอิงจากรายได้ในปี 2024 

การจัดอันดับดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของ PTG โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมเติบโต 13.6% เทียบกับปีก่อนหน้า เกิดจากความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ การขยายธุรกิจในหลากหลายมิติ และการส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม

“นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ PTG ได้รับการจัดอันดับในลิสต์สำคัญระดับภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง การขยับขึ้น 10 อันดับในปีนี้ ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมงานทุกคน ที่ร่วมกันผลักดันองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิด ESG ที่ให้ความสำคัญทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล” นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ระบุ

สำหรับ Fortune Southeast Asia 500 เป็นการจัดอันดับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพิจารณาจากรายได้ของบริษัทในปีบัญชีล่าสุด (2567) ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ของการจัดอันดับ โดยมีบริษัทจาก 7 ประเทศเข้าร่วม ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา

ผลประกอบการแกร่ง! Non-oil เรือธง
หันไปดูผลประกอบการของ PTG กันบ้าง ตัวเลขล่าสุดงวดไตรมาส 1/2568 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 มีรายได้จากการขายและการให้บริการเท่ากับ 57,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน 

ปัจจัยหลักมาจาก ธุรกิจ Non-Oil ที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการเท่ากับ 5,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.2% เป็นการเติบโตที่มาจากธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย มีรายได้รวม 959 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และ 32.2% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/2568 มีจำนวน 1,476 สาขา เพิ่มขึ้น 55.9% หรือ 529 สาขา หรือขยายมากกว่า 1.5 สาขาต่อวัน ขณะที่กำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-Oil อยู่ที่ 1,329 ล้านบาท เติบโต 55.1% โดยกาแฟพันธุ์ไทยมีกำไรขั้นต้น 523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.4%

"แนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังของปี 2568 เชื่อว่ายังคงมีศักยภาพเติบโตอย่างแข็งแกร่งจาก ธุรกิจ Non-Oil ที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ผ่านกลยุทธ์การขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทย ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และความภักดีของกลุ่มสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ที่มีความแข็งแกร่งในการใช้บริการภายใต้ ระบบนิเวศ Max World กว่า 25 ล้านราย ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร เพื่อเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม และสามารถใช้ชีวิตภายใต้ระบบนิเวศของบริษัทฯ ได้อย่าง "อยู่ดี มีสุข" นายพิทักษ์ กล่าว

ขณะที่ผลดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากปี 2566 และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 0.61 บาทต่อหุ้น โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 27,002 ล้านบาท มาอยู่ที่ 225,813 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567


โบรกฯ คาดปี 68 กำไร 1.3-1.4 พันล. เชียร์ "ซื้อ"
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินผลประกอบการปี 2568 ของ PTG จะสามารถเติบโตจากปีก่อนจากการขยายจำนวน Touchpoint, การเติบโตของธุรกิจ Non-Oil, กลยุทธ์บัตรสมาชิก, อุปสงค์น้ำมันฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศ โดยคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน คงราคาเหมาะสม 9 บาทต่อหุ้น แนะนำ "ซื้อ" 
ด้าน บล. กรุงศรี ประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ราว 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อน รับอานิสงส์จากฝั่ง Oil ที่คาดค่าการตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น 5% เป็นราว 1.73 บาท/ลิตร และ รายได้จากพันธุ์ไทยเพิ่มขึ้น 35% ตามการเร่งขยายสาขาส่งผลให้รายได้โตเฉลี่ย 28% CAGR ในช่วง 2568-2569 คาดว่ากำไรปกติโตสูงต่อเนื่องเฉลี่ย 31% CAGR ในช่วงเดียวกัน ดังนั้น แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 10.5 บาท/หุ้น