Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
BANPU รุกธุรกิจ CCUS ในสหรัฐ ปูทางอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน
MAI
NDR เปิดตัว 'ลำไย' Brand Ambassador ดันรายได้ 1,000 ล.
IPO
PETPAL ยื่นไฟลิ่ง ลุยแผนเข้าตลาด mai
บล./บลจ
InnovestX เปิดตัว DR23 ส่ง ETF สร้างผลตอบแทนชนะตลาด
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
กนง. มีมติ 6:1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี
การค้า - พาณิชย์
คต. จัดคอร์สเสริมความรู้ผู้ส่งออกการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า
พลังงาน - อุตสาหกรรม
GULF เดินหน้าพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3
คมนาคม - โลจิสติกส์
LEO ชูทางเลือกส่งออกทางเรือ–รถไฟ ลดเสี่ยงโลจิสติกส์
แบงก์ - นอนแบงก์
LH Bank ลุยพัฒนา “LISA” ยกระดับองค์กรยุคดิจิทัล
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
คาร์ฟอร์แคช ส่งบริการใหม่ “รับเงินไวสุดใน 1 ชั่วโมง”
SMEs - Startup
World จับมือ Gogolook เปิดตัว World ID บนแอป Whoscall
ประกันภัย - ประกันชีวิต
พรูเด็นเชียลฯ ชูความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
รถยนต์
'เอจีอี เวนเจอร์ส' กางแผนรุกธุรกิจยานยนต์สีเขียว
ท่องเที่ยว
ธนชาตประกันภัย ร่วมสนับสนุนงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี
อสังหาริมทรัพย์
SAM ประเดิมครึ่งปีหลัง จัดประมูลทรัพย์ NPA มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
การตลาด
CH ส่งผลิตภัณฑ์น้องใหม่ภายใต้แบรนด์ อีโรส บุก 7-Eleven
CSR
World จับมือ Gogolook เปิดตัว World ID บนแอป Whoscall
Information
กบข. จัดกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
Gossip
เตรียมพบกับ Nintendo Switch 2
Entertainment
TCL เปิดแคมเปญ “CALRITY CHALLENGE"
สกุ๊ป พิเศษ
PTG แกร่งทุกมิติ ชู Non-oil เรือธง
กนง. มีมติ 6:1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี
2025-06-25 15:54:56
49
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - กนง. มีมติ 6 : 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี ระบุเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในระยะถัดไป จากผลกระทลนโยบายภาษีสหรัฐ ประเมินจีดีพีไทยปี 68 ขยายตัว 2.3% และลดเหลือ 1.7% ในปี 69
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 โดยคณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี ทั้งนี้ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.50% ต่อปี
โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้จากภาคการผลิตและการเร่งส่งออกสินค้า อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงในระยะถัดไป โดยมีความเสี่ยงที่การส่งออกสินค้าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงเพิ่มเติมจากภูมิรัฐศาสตร์ และปัจจัยภายในประเทศ ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน ในขณะที่สินเชื่อชะลอลง ส่วนหนึ่งจากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงในบางกลุ่มและความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น
คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะถัดไป ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาสามารถรองรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ในการประชุมครั้งนี้ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้บริบทที่มีความไม่แน่นอนสูงและขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (policy space) มีจำกัด ขณะที่กรรมการ 1 ท่านเห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและเอื้อต่อการปรับตัวของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ 2569 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.3% และ 1.7% ตามลำดับ โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 2.3% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อมูลเศรษฐกิจจริงในไตรมาสที่ 1 และเครื่องชี้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 มีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ โดยการส่งออกที่ขยายตัวได้สูงจากกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าที่มีการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ส่งผลบวกต่อภาคการผลิตและภาคบริการที่เกี่ยวข้อง
หากมองไปข้างหน้า เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยคาดว่าการส่งออกสินค้าจะได้รับผลกระทบมากขึ้นจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตามแนวโน้มรายได้และความเชื่อมั่นที่ลดลง ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวปรับลดลง แม้รายรับนักท่องเที่ยวยังขยายตัวได้จากค่าใช้จ่ายต่อหัว โดยธุรกิจส่วนหนึ่งยังถูกกดดันจากสินค้านำเข้าและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2568 และ 2569 คาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.8% ตามลำดับ จากหมวดพลังงานและอาหารสด ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2568 และ 2569 อยู่ที่ 1.0% และ 0.9% ตามลำดับ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ทรงตัวในระดับต่ำเป็นผลจากปัจจัยด้านอุปทานเป็นหลัก และไม่ได้นำไปสู่ภาวะที่ราคาสินค้าลดลงเป็นวงกว้าง อีกทั้งเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย ในระยะข้างหน้า ต้องติดตามความเสี่ยงด้านสูงจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อราคาพลังงานโลก
สินเชื่อโดยรวมหดตัว สถาบันการเงินยังระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะ SMEs และครัวเรือนกลุ่มรายได้ต่ำ ประกอบกับความต้องการของภาคธุรกิจที่ลดลงและการชำระคืนหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับคุณภาพสินเชื่อยังปรับด้อยลงโดยเฉพาะสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้านอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินและในระบบสถาบันการเงินปรับลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปัจจัยภายนอกในทิศทางเดียวกับสกุลภูมิภาค คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามการขยายตัวและคุณภาพของสินเชื่อ ซึ่งอาจมีนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง และพร้อมปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า
BANPU รุกธุรกิจ CCUS ในสหรัฐ ปูทางอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน
โบรกฯ ชี้ TQM กำไรโต 7% แนะ 'ซื้อ' เป้าหุ้น 21 บ.
TQM คาดกำไรปี 68 โต 7% โบรกฯ ชี้เป้า 21 บาท - CPW จับมือ Honeywell บุกตลาดสินค้าไอที
ตลท. ยกเลิกมาตรการชั่วคราว “Ceiling & Floor” เริ่ม 25 มิ.ย. นี้
TEGH สุดปัง! ขึ้นทำเนียบ EGS100 ปีแรก
CHAYO ยืนเป้าโตเกิน 20% เปิดตัวแพลทฟอร์มสินเชื่อ 'เงินไมตรี'